นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณืฝนตกหนักทำให้มีน้ำไหลหลากท่วมขังในพื้นที่ 42 จังหวัด 205 อำเภอ 842 ตำบล 4,571 หมู่บ้าน ได้แก่จังหวัด สกลนคร บุรีรัมย์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด อุดรธานี ยโสธร หนองคาย อำนาจเจริญ นครสวรรค์ ชัยนาท จันทบุรี เพชรบูรณ์ น่าน พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ อ่านทอง ตราด ระนอง ชัยภูมิ พิจิตร อุตรดิตถ์ พะเยา นนทบุรี พิษณุโลก สระบุรี เลย อุบลราชธานี ขอนแก่น มหาสารคาม แพร่ แม่ฮ่องสอน ประจวบคีรีขันธ์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา ลพบุรี ลำปาง สุโขทัย ชุมพร และกาฬสินธุ์ บางจังหวัดสถานการณ์เริ่มคลีคลายแล้ว
นายธีรพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับ กพร. ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนตามข้อสั่งการของพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ตั้งแต่ระยะเร่งด่วน จนถึงระยะฟื้นฟู โดยเบื้องต้นได้มอบหมายหมายสถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ระดมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ จัดยานพาหนะขนย้ายสิ่งของ และแก้ไขระบบไฟฟ้าให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพยสินของประชาชน ขนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะที่จังหวัดสกลนคร เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด สำหรับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสกลนคร นอกจากจัดเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของในช่วงแรกแล้ว ได้ทำอาหารกล่องและจัดหาน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย สำหรับในพื้นที่น้ำท่วมขัง ได้จัดส่งสุขาลอยน้ำลงพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย
ในระยะฟื้นฟูนั้น กพร.ได้มอบหมายให้สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 4,756,400 บาท ในโครงการฝึกอาชีพเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ยานพาหนะ เครื่องมือเครื่องใช้ของประชานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเป็นทางเลือกในการทำงานในอนาคตด้วย ซึ่งการฝึกอาชีพในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน ในช่วงระหว่างฝึกอบรมได้จัดสรรงบประมาณเป็นค่าอาหารให้กับผู้ฝึกอบรมอีกด้วย ในอัตราวันละ 120 บาท มีระยะเวลาการฝึก 3-5 วัน สาขาที่จะฝึกอบรม อาทิ ช่างก่อสร้าง ช่างซ่อมบำรุงอาคาร ช่างก่ออิฐ-ฉาบปูน ช่างซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่างซ่อมเครื่องจักรกลการเกษตร โดยมีเป้าหมายดำเนินการจำนวน 1,520 คน
การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เพิ่มทักษะด้านอาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ในอนาคต แล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย แสดงถึงความห่วงใยที่คนไทยมอบให้แก่กันอีกด้วย นายธีรพล กล่าว