การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 เพื่อรองรับมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย พร้อมหาแหล่งเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุ

จันทร์ ๐๗ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๓๐
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อรองรับการดำเนินมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ 23พฤษภาคม 2560 เพื่อช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เนื่องจากผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยซึ่งมีจำนวนประมาณ 3.5ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งประเทศ สมควรได้รับการดูแลจากรัฐให้มีความมั่นคงทางรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างน้อยในระดับพื้นฐาน ประกอบกับปัจจุบันได้มีการจัดตั้ง "กองทุนผู้สูงอายุ" ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุ จึงเสนอให้กองทุนผู้สูงอายุซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่ให้เงินสนับสนุนโครงการด้านผู้สูงอายุและให้เงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพแก่ผู้สูงอายุ มีบทบาทในการดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น โดยจัดหาแหล่งเงินอื่นเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อให้กองทุนสามารถให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติผู้สูงอายุฯ

ในร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุฯ ได้กำหนดแหล่งเงินเพิ่มเติมสำหรับกองทุนผู้สูงอายุ โดยให้กองทุนผู้สูงอายุได้รับเงินบำรุงกองทุนในอัตราร้อยละ 2 ของภาษีที่เก็บจากสินค้าสุราและยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต แต่ไม่เกินปีละ 4,000 ล้านบาท โดยที่เงินบำรุงกองทุนผู้สูงอายุดังกล่าวเมื่อรวมกับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีผู้บริจาคเข้ากองทุนผู้สูงอายุตามโครงการสละสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่เสนอจะจัดสรรเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยต่อไป

นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และเป็นผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังจะพิจารณากำหนดจำนวนเงินที่จะจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุรายได้น้อยให้สอดคล้องกับจำนวนเงินกองทุนผู้สูงอายุที่จัดหามาได้ตาม แหล่งเงินที่กล่าวข้างต้น

การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติผู้สูงอายุฯ จะรองรับการดำเนินมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ในการดำรงชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงวัยกว่า2 – 3 ล้านคนทั่วประเทศ

สำนักนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02-273-9020 ต่อ 3688

โทรสาร 02-273-9987

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version