แอลจี อีเลคทรอนิคส์เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2560

อังคาร ๐๘ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๐๑
แอลจี อีเลคทรอนิคส์เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2560 กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศมีผลประกอบการนำกลุ่มธุรกิจอื่นๆ รายได้และผลกำไรโดยรวมสูงขึ้นแม้เป็นช่วงที่ท้าทายสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยรายได้ประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ที่ 12.89 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.25 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มียอดขายเพิ่มขึ้น12 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ 3 ใน 4 ของกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว โดยรายได้จากการดำเนินงานประจำไตรมาสนี้อยู่ที่ 588.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.94 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 13.6 เปอร์เซ็นต์แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ มีสัดส่วนรายได้และรายได้จากการดำเนินงาน ประจำไตรมาสที่ 2 มากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 4.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.53 แสนล้านบาท) และ 412.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.36 หมื่นล้านบาท) ตามลำดับ ความสำเร็จในไตรมาสที่ 2 ยังรวมถึงยอดขายที่แข็งแกร่งในตลาดเกาหลี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนในปี 2559 ถึง 43 เปอร์เซ็นต์ เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power) ยังได้ประกาศว่า "แอลจีได้รับรางวัลความพึงพอใจของผู้บริโภคในปี 2560สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องครัวและเครื่องซักผ้าสูงกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ" ทั้งนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในแถบอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชีย ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น InstaView และเครื่องซักผ้า TWIN Wash จะช่วยให้ได้ส่วนต่างผลกำไรที่แข็งแกร่ง

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 303.80 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท) จากรายได้ 3.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.24 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ว่าความต้องการทีวีของตลาดทั่วโลกจะลดลง โดยยอดขายผลิตภัณฑ์ทีวีระดับพรีเมียม เช่น LG OLED TV และ LG SUPER UHD TV ประจำไตรมาสที่สองยังคงแข็งแกร่ง พร้อมด้วยการบริหารจัดการงบประมาณที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 8.1เปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ทีวีระดับพรีเมียมของแอลจีจะยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ เผชิญกับความท้าทายในไตรมาสที่สอง โดยมีรายได้อยู่ที่ 2.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.89 หมื่นล้านบาท) และขาดทุนจากการดำเนินงานที่ 117.27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.87 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนแทบจะไม่เปลี่ยนจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมน้อยกว่าที่คาดไว้ รวมถึงต้นทุนชิ้นส่วนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดในทวีปอเมริกาเหนือยังคงแข็งแกร่ง โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าเนื่องด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้ การเปิดตัวของสมาร์ทโฟนรุ่น Q ซีรี่ส์ใหม่ และการเปิดตัวอุปกรณ์ดีไวซ์ระดับไฮเอนด์ที่จะมีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังได้

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ด้วยยอดขาย 781.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.58 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2559 เป็นผลจากความสำเร็จของกลุ่มธุรกิจเทเลเมติกส์และชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเชฟโรเลต โบลท์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกาไปเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ระบบควบคุมการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Advanced Driving Assistance Systems หรือ ADAS) ส่งผลให้ขาดทุนจากการดำเนินงานที่ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.79 ร้อยล้านบาท) ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ การลงทุนต่างๆ เหล่านี้เริ่มส่งผลลัพธ์ในเชิงบวก ซึ่งแอลจีเพิ่งประกาศความร่วมมือผลิตกล้องสำหรับระบบควบคุมการขับขี่กึ่งอัตโนมัติกับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำสัญชาติเยอรมัน คาดการณ์ว่าตลาดสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเป็นผลจากการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต โบลต์ที่ขยายเพิ่มขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ รวมทั้งการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในทวีปยุโรป

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560

รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 อยู่ที่ 33 บาทต่อ 1เหรียญสหรัฐ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version