นางสาวกาญจนา เอื้อโอบอ้อม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2560 และอนุมัติจ่ายเงินคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากการดำเนินงานให้กับผู้ถือหน่วย โดยจ่ายเป็นรูปแบบเงินลดทุนในอัตรา 0.1862 บาทต่อหน่วย (คิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 106.06 ล้านบาท) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XN ในวันที่ 18 สิงหาคม 2560 ซึ่งรวมแล้วกองทรัสต์มีการจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยตั้งแต่ต้นปีรวมทั้งสิ้น 0.4509 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นการจ่ายเงินทั้งในรูปแบบเงินปันผลและเงินลดทุน
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ของกองทรัสต์ HREIT โดยไม่นำรายการขาดทุนสุทธิทางบัญชีมารวมคำนวณ กองทรัสต์ HREIT มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 106.06 ล้านบาท เมื่อรวมกับไตรมาส 1/2560 แล้วส่งผลให้มีรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 212.40 ล้านบาท โดยอัตราการเช่าในไตรมาสนี้ อยู่ที่ประมาณ 80.53% เพิ่มขึ้น 1.14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2560 อีกทั้ง ทางบริษัทเหมราชฯ ยังได้ชดเชยรายได้ค่าเช่าจากห้องที่ว่างให้ เสมือนกับว่ากองทรัสต์มีอัตราการเช่า 100% เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี นับแต่วันที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สิน ซึ่งจะสิ้นสุดการชดเชยรายได้ค่าเช่าจากห้องที่ว่างในช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2562 ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเช่าที่แท้จริงของกองทรัสต์น่าจะมีทิศทางเดียวกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) กล่าวเพิ่มว่า การจ่ายเงินลดทุนในครั้งนี้เกิดจากการที่กองทรัสต์ HREIT มีสภาพคล่องส่วนเกินจากการดำเนินงาน และมีรายการค่าใช้จ่ายที่มิใช่เงินสด ซึ่งเกิดจากการบันทึกผลแตกต่างระหว่างราคาซื้อทรัพย์สิน ณ วันลงทุนด้วยราคาซื้อ กับราคาประเมินทรัพย์สินล่าสุดที่สอบทานโดยผู้ประเมินอิสระ ในการจ่ายเงินคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากการดำเนินงานโดยการจ่ายเป็นเงินลดทุน ผู้ถือหน่วยจะได้รับเงินสดเช่นเดียวกับเงินปันผล และยังจะได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากการลดทุนโดยที่เงินลดทุนที่ได้รับนั้นจะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% เหมือนกับเงินปันผลอีกด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กองทรัสต์ HREIT ได้จ่ายเงินผลประโยชน์ตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 0.4509 บาทต่อหน่วย ทั้งในรูปแบบเงินปันผลและเงินลดทุน
ส่วนความคืบหน้าการเพิ่มทุนในครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์ HREIT เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป 30 ปี และสิทธิต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี จำนวน 5 โครงการ มูลค่าทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 1,690 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) (ESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) โครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี (HSIL) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี (HCIE) และโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4 (HLP4) รวมมีพื้นที่เช่าอาคารทั้งหมดในส่วนที่กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 55,131 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) เท่ากับ 100% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดำเนินการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะสามารถเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ภายในปลายปีนี้ ซึ่งหลังจากลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ จะส่งผลให้ขนาดทรัพย์สินของ HREIT โตเกือบ 10,000 ล้านบาท