บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ ("INGRS") สร้างประวัติศาสตร์เป็นหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์อาเซียนตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หุ้นไอพีโอ INGRS จำนวน 578 ล้านหุ้นเปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรก
ดาโต๊ะ ราเมลี่ บิน มูซา รองประธานกรรมการ บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของอาเซียนรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในการขยายและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของเราในประเทศสำคัญ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียและอินโดนีเซียซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดยานยนต์ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดย INGRS มีโรงงานผลิต 10 โรงงานใน 4 ประเทศ ซึ่งรวม 3 โรงงานในประเทศไทย ซึ่งให้บริการผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกหลายราย ซึ่งโรงงานตั้งอยู่ใน จ.ระยองและ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้คาดว่าตลาดรถยนต์ของไทยจะกลับมาเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 3.5% ต่อเนื่องกันอีก 3 ปี ในขณะที่มาเลเซียซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งของบริษัทฯ คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยปีละ 4.5% ต่อปีในอีก 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียมีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังขยายตัวอย่างสูง เติบโตในอัตราเฉลี่ยปีละ14.30 % ติดต่อกัน 3 ปี จะขยายกำลังการผลิตรถยนต์เป็นปีละ 2 ล้านคันภายในปี 2563 สำหรับอินเดียเป็นอีกตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมียอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ประมาณ 4 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 14.3% จากปี 2559 ซึ่งมียอดการผลิตรถยนต์จำนวน 3.5 ล้านคัน โดยปัจจุบันอินเดียมีการผลิตรถยนต์มากกว่าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของอาเซียนรวมกัน และคาดว่าอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอินเดียจะขยายตัวต่อเนื่องจากเพิ่มขึ้นของทั้งยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่และการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น ดังนั้น INGRS วางแผนที่จะขยายการดำเนินงานและเพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 2 ประเทศนี้
นายอับดุล ราฮิม บิน ฮายี ฮิตัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัท ฯ เติบโตจากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำของอาเซียนสู่การเป็นบริษัทระดับอาเซียนที่มีฐานลูกค้ากระจายทั่วโลก บริษัทประกอบด้วยบริษัทย่อยทั้งหมด 9 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทย่อย8 บริษัท และบริษัทร่วมอีก 1 บริษัท ซึ่งมีความสามารถด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงใน 4 ประเทศหลัก ๆ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย อีกทั้ง INGRS ยังมีการพัฒนาความรู้และความเชี่ยวชาญที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมการผลิตให้มีเทคโนโลยีขั้นสูงร่วมกับบริษัทพันธมิตร เช่น Katayama Kogyo, Metaltech และ Iwamotoจากประเทศญี่ปุ่นรวมถึง Woo Young จากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงสำหรับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย เช่น ฮอนด้า มิตซูบิชิ ฟอร์ด มาสด้า เจนเนอร์รัล มอเตอร์ อีซูซุ ซูซูกิ นิสสัน โตโยตา ไดฮัทสุ เพอโรดัว และโปรตอน เช่นเดียวกับลูกค้าในประเทศอินเดีย เช่น มารูติ - ซูซูกิ เฟียต และ มหินดรา มหินดรา ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บวกกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการผลิตและระบบการผลิตที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ทำให้บริษัทฯ สามารถแข่งขันในตลาดที่มีศักยภาพ ส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการจัดจำหน่ายให้กับฐานลูกค้าที่หลากหลายตั้งแต่ รถยนต์นั่ง สปอร์ตยูทิลิตี้ (SUV) รถบรรทุกกระบะหนึ่งตันและรถบรรทุกขนาดเล็กในทุกประเทศในกลุ่มอาเซียน
ทั้งนี้บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 1,446,942,690 บาท สำหรับงบปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,915.90 ล้านบาทและกำไรสุทธิ (ก่อนหักส่วนที่เป็นของผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมของบริษัทย่อย) 210.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จาก 177.00 ล้านบาท หากเทียบกับงบปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2559 ซึ่งบริษัท มีรายได้ 3,158.60 ล้านบาท แม้ว่ากลุ่มบริษัทฯจะต้องรับรู้การคำนวณภาษีเงินได้ใหม่ โดยไม่มีมูลค่าตามเกณฑ์ภาษีล่าสุด 32 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น7.22 % แม้ว่ารายได้จะลดลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทฯคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในอาเซียนและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด INGRS มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 40 % ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหลังการจัดสรรเงินสำรองตามกฏหมาย