นอกจากนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 164 ( KTFF164 ) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2560 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of China , Agricultural Bank of China , Industrial and Commercial Bank of CHINA ,China Construction Bank ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ19% ส่วนที่เหลือลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of Communications 10% และ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC 14%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ1.35%ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศยังคงมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ โดยยังคงมีเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้เกิดใหม่รวมถึงไทยเพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดซื้อสุทธิจำนวน 45,078 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเช่นกัน แต่ทั้งนี้หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าที่คาดการ์ไว้ ทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดลดช่วงติดลบลง โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.35% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps. มาอยู่ที่ 1.82% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 3bps.มาอยู่ที่ 2.26% ต่อปี
" ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ และผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต " นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ โทร 0-2686-6100