นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า วี ฟู้ดส์ กำเนิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเล็งเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลกเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมา วี ฟู้ดส์ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายด้วยผลิตภัณท์ข้าวโพด วี คอร์น ซึ่งเป็นแบรนด์ในประเทศ และดาวคอฟฟี่ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับอาเซียน และล่าสุดกับการเปิดตัว ซันคิสท์ เป็นแบรนด์คุณภาพระดับโลกจากสวนส้มซันคิสท์แคลิฟอร์เนีย
"ซันคิสท์เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากส้มที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 ด้วยประสบการณ์และเคล็ดลับในกระบวนการปลูกส้มซันคิสท์อย่างทุ่มเท เก็บด้วยมือ คัดสรรด้วยความเอาใจใส่ของเกษตรกรจากสหกรณ์การเกษตรสวนส้มซันคิสท์นับ 1,000 ราย สืบทอดคุณภาพกันมากว่า 5 รุ่น ในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านกระบวนการรักษาคุณภาพ การผลิต ในทุกขั้นตอน ทำให้ผลิตภัณฑ์ซันคิสท์คงความสด ปลอดภัย มีคุณภาพ ซึ่งวันนี้ วี ฟู้ดส์ ได้รับความไว้วางใจจากซันคิสท์ โกรว์เออร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มอบลิขสิทธิ์ในการพัฒนาและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ซันคิสท์ในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสรสชาติความอร่อย สดชื่น ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์คุณค่าจากธรรมชาติ และมีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง ทั้งทำงาน สนุกกับชีวิต และดูแลสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน" นายอภิรักษ์ กล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลหนึ่งวี ฟู้ดส์ ได้รับลิขสิทธิ์ในครั้งนี้เป็นเพราะซันคิสท์ โกรว์เออร์ เห็นถึงพลังและความตั้งใจของทีมงานวี ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และมีนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าให้มีความน่าสนใจ โดยการคัดเลือก 2 สายพันธุ์ส้มที่โดดเด่นและแตกต่างจาก 40 กว่าสายพันธุ์ของซันคิสท์มาคิดค้นน้ำส้ม 2รสชาติใหม่ครั้งแรกในโลก คือ ซันคิสท์ เฟรชชี่ น้ำส้มบลัดออเร้นจ์ และ ซันคิสท์ เฟรชชี่ น้ำส้มนาเวลออเร้นจ์ โดยน้ำส้ม บลัดออเร้นจ์ เป็นส้มเพียงหนึ่งเดียวที่มีเนื้อสีแดงธรรมชาติจากสารแอนโทไซยานินที่มีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพและความงาม และยังผสานคุณค่าจากอะโรเนียเบอร์รี่ซึ่งเป็นซูเปอร์ฟรุตที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง ส่วนน้ำส้มนาเวลที่มีเนื้อส้มสีเหลืองทอง มีจุดเด่นที่ให้วิตามินซีสูง รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ทั้ง 2 รสชาติยังใส่ใจเรื่องสุขภาพด้วยการเป็นสูตรน้ำตาลน้อยกว่า และยังมีรสชาติอร่อย ให้ความสดชื่น โดยขณะนี้ได้วางจำหน่ายแล้วที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นถึง 5,500 สาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ ภาคตะวันออก ในราคาขวดละ 20 บาท
"เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของซันคิสท์ เฟรชชี่ คือ คนเมืองยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ใช้ชีวิตในเมือง สนใจเรื่องดิจิทัล เราจึงใช้แคมเปญเปิดตัวซันคิสท์ เฟรชชี่ โดยการสร้างกระแสผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ และ Online Influencer ภายใต้แนวคิด'การเดินทางของส้มจากสวนส้มซันคิสท์แคลิฟอร์เนียถึงประเทศไทย' โดยไอเดียจะสื่อถึงเรื่องราวของชีวิตส้มซันคิสท์ ผ่านช่องทาง Instagram ในชื่อ Mr. Blood and Miss Navel ตัวแทนของส้มที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากเกษตรกรสวนส้มซันคิสท์ ได้เดินทางจากสวนส้มซันคิสท์ แคลิฟอร์เนียบ้านเกิดมาประเทศไทย ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่ดีตลอดการเดินทางของชีวิตส้มระดับโลก เพื่อมาส่งมอบประโยชน์และคุณค่าจากธรรมชาติให้กับคนไทย และเมื่อมาถึงเมืองไทยแล้ว จะโพสต์เรื่องราวการใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ในเมืองไทย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 สิงหาคม 2560 และในออนไลน์คลิปซึ่งจะเฉลยว่าผลส้ม Mr. Blood and Miss Navel คือตัวแทนของน้ำซันคิสท์ เฟรชชี่ทั้ง 2 รสชาติ ที่เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว มาส่งมอบความสดชื่น คุณค่าดีๆ ชีวิตรสชาติใหม่ ด้วยสูตรน้ำตาลน้อยกว่า และมีคุณค่าจากธรรมชาติแก่คนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนไทยยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยแคมเปญนี้ยังมี Hashtag #LiveFresh เพื่อต้องการสื่อสารถึงคนเมืองยุคใหม่ ให้ใช้ชีวิตอย่างสดชื่นเต็มที่ สนุกทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่สำคัญคือไม่ลืมที่จะใส่ใจในเรื่องสุขภาพอีกด้วย ซึ่งสามารถติดตามเรื่องราวของ Mr.Blood and Miss Navel ได้ที่ IG: mr_blood_and_miss_navel หรือFacebook/Sunkist Beverage Thailand และติดตามข้อมูลข่าวสารแบรนด์ซันคิสท์ได้ที่ www.sunkistthailand.comนอกจากนี้จะมีกิจกรรมโรดโชว์เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมและสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า ตามอาคารสำนักงานในเมือง สยาม สแควร์ ตลาดนัดจตุจักรและงานอีเว้นท์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าซันคิสท์ เฟรชชี่จะได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ในอเมริกา ทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และในเอเชียที่ได้รับลิขสิทธิ์มาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์และเมียนมาร์" นายอภิรักษ์ กล่าว