L&E เชื่อครึ่งปีหลังคืนฟอร์ม จาก Backlog เกือบ 1 พันล้านบาท ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 5-10% เหตุงานโครงการแข่งดุ - สินค้าทางเลือกเพียบ

พฤหัส ๑๐ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๐๕
L&E ให้ความเชื่อมั่นผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2560 รายได้ กำไร เติบโตจากครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ หลังรับรู้รายได้จาก Backlog มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาทในปีนี้ "ปกรณ์ บริมาสพร" ประธานกรรมการบริหาร ชี้สถานการณ์ธุรกิจยังคงเดินหน้าเติบโตจากงานโครงการ ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ต อาคารสำนักงาน บวกกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพและเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ยอมรับว่าสินค้าทางเลือกราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลต่อมูลค่างานโครงการแต่ละแห่งลดลงกระทบรายได้ เล็งปรับเป้ารายได้โตเหลือ 5-10% จากเดิมคาดโต 15% จากปีก่อน แต่เน้นรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ให้ต่ำกว่า 30% คาดสะท้อนกำไรสุทธิปีนี้สูงกว่าปี 2559 ด้านผลประกอบการ Q2/60 รายได้รวม 575 ล้านบาท ลดลง 10% เป็นผลจากการเลื่อนส่งมอบงานหลายโครงการ ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 8.4 ล้านบาท ลดลง 3.2 ล้านบาท

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัทฯ ซึ่งปกติจะสร้างรายได้ประมาณ 55-60% ของรายได้รวม ขณะที่ครึ่งปีแรกสร้างรายได้อยู่ที่ 40-45% ของรายได้รวม คาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้กว่า 60% มาบันทึกในช่วงครึ่งปีหลังจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการล่าช้ามูลค่าประมาณ 60 ล้านบาทไปรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้มูลค่างานคงค้างในมือประมาณ 1 พันล้านบาทจะสามารถรับรู้ในปีนี้เกือบทั้งหมด

อย่างไรก็ตามในปี 2560 บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการรายได้เติบโต 5-10% จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% โดยปัจจัยหลักประกอบด้วย งานโครงการมีการแข่งขันเข้มข้นสินค้าทางเลือกราคาต่อหน่วยต่ำลงส่งผลให้มูลค่างานโครงการลดลงด้วย รายได้ค้าส่ง ค้าปลีก ลดลงจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวผนวกกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้รายได้จากการส่งออกลดลง เนื่องจากการเลื่อนส่งมอบงานและการตั้งสำนักงานล่าช้าในประเทศเวียดนาม รวมทั้งในปีนี้ซุปเปอร์สโตร์รายหนึ่งในประเทศออสเตรเลียชะลอการลงทุนจากปีที่แล้วบริษัทฯ ได้จำหน่ายโคมไฟ LED ให้จำนวนมาก ทั้งนี้แม้ว่าการเติบโตของรายได้ลดลงแต่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตจากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 74.1 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2560 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 575 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 10% สำหรับงวด 6 เดือนแรก มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,124 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,312 ล้านบาท หรือลดลง 14% สาเหตุจากการเลื่อนส่งมอบงานหลายโครงการ และการแข่งขันที่เข้มข้นทำให้บริษัทฯ ต้องนำเสนอสินค้าทางเลือกที่มีราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลให้รายได้งานโครงการอยู่ที่ 394 ล้านบาท ลดลง 6% ส่วนงานค้าส่งค้าปลีกรายได้อยู่ที่ 150 ล้านบาทหรือลดลง 9% เป็นผลจากการกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อ่อนตัวลงและการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับงานส่งออกรายได้อยู่ที่ 31 ล้านบาทหรือลดลง 40% เป็นผลจากการเลื่อนส่งมอบงานในประเทศเวียดนาม รวมทั้งในปีที่แล้วบริษัทฯ ได้ขายโคมไฟฟ้า LED จำนวนมากเพื่อใช้ติดตั้งในซุปเปอร์สโตร์รายหนึ่งในประเทศออสเตรเลียแทนของเดิมเพื่อประหยัดพลังงาน แต่ซุปเปอร์สโตร์ดังกล่าวได้ชะลอการลงทุนในปีนี้ ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2560 อยู่ที่ 8.4 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 3.2 ล้านบาทหรือลดลง 28% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นจากการขายและให้บริการรวมรายได้อื่นลดลง 2.7 ล้านบาทหรือลดลง 1% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมดอกเบี้ยจ่ายลดลง 0.4 ล้านบาทหรือลดลง 0.2% และภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก กำไรสุทธิอยู่ 11.7 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.5 ล้านบาท หรือลดลง 13%

"ครึ่งปีแรกของปีนี้รายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 1,124 ล้านบาท ลดลง 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.7 ล้านบาท ลดลง 13% แม้ว่าผลประกอบการลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นปกติของบริษัทฯ ที่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นไฮซีซั่นและบันทึกสัดส่วนรายได้มากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งปีนี้รายได้จะบันทึกในครึ่งปีหลังมากเป็นพิเศษเพราะการรับรู้รายได้งานโครงการล่าช้า และปีนี้ L&E ผลประกอบการยังเติบโตได้ในภาวะเช่นนี้ทั้งรายได้และกำไร ภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นในงานโครงการ มีสินค้าด้านอุปกรณ์แสงสว่างทางเลือกที่ราคาต่อหน่วยต่ำลง ส่งผลต่อมูลค่างานโครงการโดยรวมลดลง รวมทั้งกำลังซื้อทั้งค้าส่ง ค้าปลีก ทั้งในประเทศและต่างประเทศชะลอตัว จึงปรับเป้ารายได้ แต่ในส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะดีกว่างวดปีก่อน โดยพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 32% จากปีก่อนอยู่ที่ 29% แม้งานโครงการมูลค่าต่อโครงการลดลงแต่อัตรากำไรขั้นต้นกลับสูงขึ้น ส่วนสถานการณ์งานโครงการยังเติบโตทั้งห้างสรรพสินค้า ที่อยู่อาศัย รวมทั้งการเปลี่ยนอุปกรณ์แสงสว่างทดแทนของเดิม" นายปกรณ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ