บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลรวม 5 กองทุนต่างประเทศ มูลค่ากว่า 390 ล้านบาท ผู้ลงทุนเตรียมรับเงินพร้อมกัน 11 ส.ค.นี้

พฤหัส ๑๐ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๕:๓๕
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 - 31 กรกฎาคม 2560 กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2559 - 31 กรกฎาคม 2560 กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 - 31 กรกฎาคม 2560 กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 - 31 กรกฎาคม 2560 และกองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-GEMO) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 - 31 กรกฎาคม 2560 โดยทั้ง 5 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 392.59 ล้านบาท

ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนที่จ่ายปันผลในครั้งนี้ นายนาวินกล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน K-USA ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเป็นบวกอยู่ที่ 17.27% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) สามารถเอาชนะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานของกองทุน ซึ่งบวกเพียง 9.68% โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเติบโต (Growth Stock) ในกลุ่มไอทีและสินค้าฟุ่มเฟือยที่กองทุนเน้นลงทุน ซึ่งเป็นผลจากการที่กองทุนคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ร่วมกับการพิจารณาคุณภาพของบริษัทที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ส่วนปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ คือแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ว่าจะทำได้ตามที่หาเสียงได้หรือไม่ หลังจากที่ไม่สามารถผลักดันกฎหมายประกันสุขภาพที่มาแทนโอบามาแคร์ได้สำเร็จ รวมถึงต้องติดตามจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และการปรับลดขนาดงบดุล ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้

ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน K-EUROPE ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเป็นบวกอยู่ที่ 9.51% ชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 8% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนและการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป โดยขณะนี้ราคาหุ้นนับว่าอยู่ในระดับถูกมากกว่าหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามองคือ เรื่องค่าเงินยูโรที่มีแนวโน้มแข็งค่ากดดันภาคการส่งออกในช่วงสั้น พร้อมติดตามผลกระทบจาก Brexit ที่มีต่อเศรษฐกิจยุโรปในระยะต่อไป

นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเทศส่วนใหญ่ในเอเซีย มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยมีจีน และอินเดียเป็นตลาดหลักในการขับเคลื่อน และยังมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่องจากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ อานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงยังส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนในเอเซียมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นเอเซียมีความน่าสนใจในการลงทุน สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน K-ASIA ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเป็นบวกอยู่ที่ 22.67% สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 17.36% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) กองทุน K-GEMO ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเป็นบวกอยู่ที่ 23.20% ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 23.28 %( ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) ในขณะที่กองทุน K-INDIA ตั้งแต่ต้นปีปรับตัวเป็นบวกอยู่ที่ 25.24% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 29.47 % (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 60)

ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-USA กองทุน K-EUROPE กองทุน K-ASIA กองทุน K-INDIA และกองทุน K-GEMO สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888

กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)

K-USA 1พฤษภาคม2560 - 31กรกฎาคม2560 0.25

K-EUROPE 1สิงหาคม2559 - 31กรกฎาคม2560 0.25

K-ASIA 1พฤศจิกายน2559 - 31กรกฎาคม2560 0.25

K-INDIA 1กุมภาพันธ์2560 - 31กรกฎาคม2560 0.30

K-GEMO 1พฤษภาคม2560 - 31กรกฎาคม2560 0.20

*คิดจาก NAV วันที่ 31 ก.ค. 60

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version