- ปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
- จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1.531 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายในปี 2559
ผลประกอบการสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2560 มีดังนี้:
- รายได้รวม 26,149 ล้านบาท
- EBITDA (ไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน) จำนวน 9,255ล้านบาท
- กำไรสุทธิ จำนวน 4,728 ล้านบาท และ
- Normalized Net Profit (NNP)1 จำนวน 4,539 ล้านบาท
EBITDA สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2560 ลดลงร้อยละ 11 ในขณะที่ NNP ลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี2559 โดยส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2560
ผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่สองของปี 2560 มีดังนี้:
- รายได้รวม 14,013 ล้านบาท
- EBITDA (ไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน) จำนวน 5,483ล้านบาท
- กำไรสุทธิ จำนวน 2,830 ล้านบาท และ
- Normalized Net Profit (NNP)1 จำนวน 2,827 ล้านบาท
ผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาสสอง ภายหลังการซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสแรก
นายเบรนดอน วอเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานในไตรมาสสองของปี 2560 ที่ออกมาดีเยี่ยม เป็นผลมาจากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมที่สูงอย่างต่อเนื่อง และความพร้อมในการผลิตไฟฟ้าของหน่วยผลิตที่อยู่ในระดับสูง กำไรสำหรับกลุ่มธุรกิจโคเจนเนอเรชั่นยังสะท้อนการปรับตัวสูงขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม โดยผลประกอบการนี้นับรวมรายการรายได้อื่น ๆ ที่ไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ (Non-Recurring Other Incomes) เช่น สินไหมชดเชยรายได้ที่สูญหายไปจากการเคลมประกันภัยของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน"
เงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 5
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 1.531 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายในปี 2559 โดยกำหนดวันที่ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 21 สิงหาคม 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2560
นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า "คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่สูงขึ้นร้อยละ 5 จากปีที่แล้ว โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2559 รวมทั้งสิ้น 5.75 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นเงินปันผลปกติจำนวน 3.64 บาทต่อหุ้น และเงินปันผลพิเศษจำนวน 2.11 บาทต่อหุ้น โดยเงินปันผลระหว่างกาลที่ประกาศจ่ายในปี 2559 จำนวน 1.458 บาทต่อหุ้นนั้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของเงินปันผลปกติของปี 2559ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และสถานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัท"
1 กำไรสุทธิก่อนรวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ รายได้/ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน