นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) หรือ SR เปิดเผยว่าที่ ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2560 มีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการจากบริษัท เทคโทรนิค โฮลดิ้ง จำกัด (T-Holding) ด้วยกระบวนการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer: EBT) รวมถึงการลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการดังกล่าว มีมูลค่าตอบแทนที่ ตกลงในสัญญาโอนกิจการจำนวน 313,450,000 บาท โดยบริษัทฯ จะชำระเป็นเงินสดจำนวน 45,000,000 บาท และส่วนที่เหลือจำนวน 268,450,000 บาทนั้น บริษัทฯ จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เป็นจำนวน 76,700,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการของ T-Holding คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 12.78 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดของ T-Holding ทั้งทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทั้งหมดจาก T-Holding ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีในอนาคต ณ วันโอนกิจการทั้งหมด รวมไปถึงหุ้นสามัญของบริษัท เทคโทรนิค จำกัด ("T") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ถือหุ้นโดย T-Holding จำนวน 59,998 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่ จดทะเบียนและชำระแล้วของเทคโทรนิค (รวมเรียกว่า "กิจการทั้งหมดของ T-Holding")
ทั้งนี้ บมจ.สยามราช จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 338.35 ล้านบาท จากเดิมที่ 300 ล้านบาท โดยจะออกหุ้นใหม่ 76,700,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดจาก T-Holding ขณะที่ T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.สยามราช โดยหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะจัดสรรแก่นายต่อโชค เล้าลือชัย จำนวน 46,020,000 หุ้น และนายชัชวาล เจตจำนงกิจ จำนวน 30,680,000 หุ้น
ภายหลังการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดแล้ว SR ยังคงประกอบธุรกิจเดิม คือเป็นผู้ให้บริการออกแบบและก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และระบบปั๊มอุตสาหกรรม โดยที T จะกลายเป็นบริษัทย่อยของ SR และดำเนินธุรกิจออกแบบ และติดตั้ง ระบบควบคุมและวัดอัตราการไหลของของไหลในระบบท่อ ทั้งนี้การบริหารงานใน T บริษัทฯ จะแต่งตั้งผู้บริหารชุดเดิมให้ดำเนินธุรกิจต่อไป และจะเป็นผู้สนับสนุนธุรกิจในด้านต่างๆ ให้แก่ T อาทิ ด้านการเงิน ด้านบุคคลากร หรือด้านอื่นๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับหลังจากการเข้าซื้อและรับโอนกิจการดังกล่าว คือจะช่วยช่วยเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจให้มีความได้ เปรียบในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยจะช่วยขยายสายงานการให้บริการ และการขายผลิตภัณฑ์ (Product and Service Line Extension) ให้แก่ กลุ่มบริษัท ในกลุ่มธุรกิจการสร้างสถานีวัด (Metering) และกลุ่มระบบปั๊มอุตสาหกรรม ตลอดจนการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความได้เปรียบและความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม และทำให้สามารถรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถเพิ่มโอกาสในการเปิดรับโครงการที่มีขนาดเล็กสำหรับธุรกิจการสร้างสถานีวัดก๊าซ (Gas Metering) นอกจากนี้ยังช่วยการบูรณาการองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนากระบวนการให้บริการ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการออกแบบ และติดตั้งสถานีวัดในพื้นที่ EEC อีกด้วย เนื่องจาก T มีฐานลูกค้าอยู่ในเขตพื้นที่พิเศษดังกล่าวจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะ T ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ จังหวัดระยอง เพื่อรองรับลูกค้าในเขตดังกล่าวโดยเฉพาะ ภายหลังจากการเข้าทำรายการแล้วจะทำให้กลุ่มบริษัทมีฐานลูกค้าในเขตพื้นที่ ภาคตะวันออกมากยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำการออกแบบ และติดตั้งงานสถานีวัดและควบคุมการไหลที่ครอบคลุมก๊าซแรงดันสูงและของไหล เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ครั้งนี้ถือเป็นการ Synergy ของทั้งสองฝ่ายและจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการเสริมในด้านรายได้และสถานะทางการเงินที่แข่งแกร่งขึ้นสำหรับ SR เพราะที่ผ่านมาในรอบปี 2559 ของ T มีรายได้จาการขายและให้บริการจำนวน 254.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.81 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 10.13 มีอัตราหนี้สินต่อส่วนของทุนต่ำมากเพียง 0.66 เท่า ขณะที่ในอนาคตมีศักยภาพที่จะสร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก" นายเกียรติ กล่าว
อีกประการที่สำคัญคือพันธมิตรใหม่ยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขภายใต้สัญญาตกลงกระทำการ เกี่ยวกับระยะเวลาการห้ามขาย (Lock-up) เป็นเวลาทั้งหมด 5 ปี นับจากวันที่หุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ถูกจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นดังกล่าว โดยตกลงว่าจะไม่จำหน่าย จ่าย หรือโอน หุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ก่อภาระผูกพันหรือกระทำการประการอื่นใด อันมีผลทำให้หุ้นเพิ่มทุนของบริษัทตกไปอยู่กับบุคคลอื่น ตามสัดส่วนที่กำหนด คือ ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจนถึงวันครบรอบปีที่ 2 ห้ามขายจำนวนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ตั้งแต่วันครบรอบปีที่ 2 จนถึงวันครบรอบปีที่ 3 ห้ามขายร้อยละ 75 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ตั้งแต่วันครบรอบปีที่ 3 จนถึงวันครบรอบปีที 4 ห้ามขายร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ตั้งแต่วันครบรอบปีที่ 4 จนถึงวันครบรอบปีที่ 5 ห้ามขายร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท