นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 100.20 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมปรากฎว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 688.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 10.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 620.83 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจ
จากผลการดำเนินงานที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดี คณะกรรมการบริษัท จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2560 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จำนวน 253,748,582 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 50,749,716.40 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 28 สิงหาคม 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 8 กันยายน 2560นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติให้ตั้งบริษัทย่อย บริษัท คูดอส สมาร์ท อินโนเวชั่น จำกัด เพื่อให้การตอบรับไทยแลนด์ 4.0 และเป็นธุรกิจ Start up ทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี (SMART SOLUTION) โดย ARROW ถือหุ้นในสัดส่วน 70%
เขากล่าวต่อถึงภาพรวมธุรกิจไตรมาสที่เหลือปีนี้ ของกลุ่มบริษัทฯ เชื่อว่าจะยังคงทำผลงานขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจจากงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังเติบโต อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 770 ล้านบาท ประกอบกับคาดว่าจะมีงานใหม่ๆ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ลงทุนเพิ่มสายการผลิต ท่อร้อยสายไฟที่ได้รับบัตรการส่งเสริม (BOI) อีกหนึ่งสายการผลิต เพื่อช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปีนี้มั่นใจรายได้รวมยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-20 % ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจะรักษาให้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-30 %
"จากผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริษัทฯจึงได้มีอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นไป"นายธานินทร์กล่าวในที่สุด