ทั้งนี้ แผนลงทุนของเมกาโฮมในการเปิดสาขาก็จะเน้นเลือกเมืองชายแดน เมืองที่กำลังเจริญเติบโต และรอบนอกกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่แล้ว ซึ่งเชียงรายเป็นทั้งเมืองชายแดนและเมืองที่กำลังเติบโต จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เข้าไปพัฒนาร่วมกับท้องถิ่น นอกเหนือจากการเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการตลาดให้กับธุรกิจ ถือเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยในปีแรกที่ไปเปิดสาขาตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 60-70 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้าและการชะลอลงทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่บ้าง โดยยอดขายเติบโตอยู่ที่ 20% จากที่วางเป้าหมายเติบโตปีนี้ 30% เนื่องจากลูกค้าหลักของเมกาโฮมประมาณ 50% จะเป็นสินค้าที่ขายผ่านทางสินค้าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับช่างก่อสร้าง เมื่อการลงทุนภาคอสังหาฯชะลอก็ทำให้ยอดซื้อลดลง
อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อในกรุงเทพฯ ที่เป็นลูกค้าเจ้าของบ้านยังเติบโตอยู่ ส่วนที่หายไปจะเป็นลูกค้าระดับกลางลงล่างที่อยู่รอบนอกย่านโรงงาน แต่พบว่าในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในส่วนของผู้รับเหมาก่อสร้างมีการเติบโตดีมาก หรือแม้แต่เชียงรายที่ไปเปิดสาขาใหม่ก็มีกำลังซื้อดีมากจากทั้งคนไทยและพม่า โดยในฝั่งพม่ามีรัฐฉานเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ ทำให้อัตราการบริโภคมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
"ยอดขายในเขตปริมณฑลโตสุด เพราะคนยังมีกำลังซื้อและเศรษฐกิจยังกระจุกอยู่ตรงนี้ ถัดไปก็เป็นเขตอุตสาหกรรมติดชายแดน ตอนนี้เมืองที่จะเฉไปทางอีอีซี ที่ดินแถวนั้นซื้อไม่ได้แล้ว ราคาแพงขึ้นมาก ต้องบอกว่าตอนนี้ส่วนที่เป็นกรุงเทพ ปริมณฑลและรอยต่ออีอีซีจะโตหมด" นางสุพรศรี กล่าว
นอกเหนือจากการมองหาทำเลใหม่ในการเปิดสาขา เพื่อเพิ่มรายได้แล้ว เมกา โฮมยังกลับมาดูเรื่องการปรับรูปแบบด้วย เพราะตอนนี้มีหลายค่ายปรับมาคล้ายๆ กันทำให้ต้องขยับปรับเปลี่ยนเพื่อให้เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมเช่นเดิม แต่จะคงแนวคิดเรื่องลดต้นทุน ประหยัดเวลา งานเสร็จไวไว้เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านได้มีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว อย่างเรื่องของสินค้าก็มีการพัฒนาใช้นวัตกรรมใหม่ๆ นำเสนอให้แก่ลูกค้า ตอนนี้ที่ได้รับความสนใจมากก็คือ ร้านเสร็จทันใจสร้างด่วน ถือเป็นรายแรกที่ออกสู่ตลาด และจากเดิมที่นำเสนอในรูปแบบร้านค้าก็มีคนสนใจนำไปเป็นบ้าน หรือรีสอร์ท ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็จะเป็นกลุ่มที่ต้องการขยายพื้นที่ใช้สอยในบ้าน, กลุ่มลูกค้าร้านผู้ประกอบการ และกลุ่มรีสอร์ท
นางสุพรศรี กล่าวต่อว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดจากนี้ไปจะเน้นกันที่นวัตกรรม นำเสนอสินค้าที่แตกต่าง ผ่านใต้แนวคิดลดต้นทุน ประหยัดเวลา งานเสร็จไว ส่วนการแข่งขันเรื่องราคาคงไม่หนีกัน เพราะทุกคนไม่ใช่ผู้ผลิตเป็นแค่ผู้ขาย แต่สิ่งที่ต่างกันจะขึ้นอยู่กับการเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้ายังไงในการจ่ายราคาเท่ากัน แต่ว่าได้สินค้าคุณภาพ หรือนวัตกรรม
ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป ปัจจุบันจะมีการเช็คราคา เช็คคุณสมบัติสินค้าผ่านโซเชียล เมกาโฮมแม้จะยังไม่ได้ขายผ่านออนไลน์ แต่ก็มีการนำเสนอสินค้าผ่านเฟซบุ๊ค และไลน์ ทำให้ลูกค้าเช็คเปรียบเทียบได้เลยก่อนเข้ามาซื้อสินค้า จึงส่งผลให้การใช้เวลาในการเลือกซื้อเมื่อมาถึงมีความรวดเร็วมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น ตอนนี้เลยมีการผูกโปรโมชั่นกับออนไลน์มากขึ้นด้วย
สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้ นางสุพรศรี มองว่า เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะมองว่าคนยังมีกำลังซื้อแต่ระมัดระวังการใช้จ่าย ดังนั้น โจทย์ผู้ประกอบการคือ ทำอย่างไรให้การจ่ายของลูกค้าคุ้มค่าและกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ไม่ใช่ซื้อเพราะลดราคาเพียงอย่างเดียว จะเป็นเรื่องการต่อยอดจูงใจลูกค้า ซึ่งปีนี้เมกาโฮมตั้งเป้ายอดขายรวมทุกสาขาไว้ 9,000 ล้านบาท และสามารถทำได้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ก็จะพยายามทำให้ได้เพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
คำค้น: เมกาโฮม