นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือETE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำงวด 6 เดือนของ ปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25.93% ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 97.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13.15 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 13.44% เป็น 15.63% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 1.82% เป็น 3.65% โดยการเติบโตของกำไรสุทธิเกิดจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ในปี2560 รวมมูลค่า 63.88 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 2 ธุรกิจเดิม จึงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิในภาพรวมของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ในขณะที่ปีนี้บริษัทฯยังคงเป้ารายได้เติบโตที่ระดับ 20-30% โดยบริษัทฯยังคงเดินหน้าเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจบริการบริหารจัดการ หรือ Outsourcing และธุรกิจบริการวิศวกรรม รวมถึงธุรกิจจัดหา และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ความปลอดภัย เพื่อเพิ่มปริมาณงานในมือ หรือ Backlog ให้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2560 บริษัทฯมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ หรือ Backlog รวมอยู่ที่ 4,212.33 ล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้อยู่ที่ 1,555.01 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานในมือที่รอรับรู้รายได้ธุรกิจบริการบริหารจัดการ หรือ Outsourcing มูลค่า 534.87 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 750.42 ล้านบาท งานในมือที่รอรับรู้รายได้ธุรกิจบริการวิศวกรรม มูลค่า 738.87 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 664.63 ล้านบาท และงานในมือที่รอรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 2,938.59 ล้านบาท (รับรู้รายได้ตามสัญญาขายไฟ 25 ปี) สามารถรับรู้รายได้ปีนี้ 127.13 ล้านบาท และงานในมือที่รอรับรู้รายได้ธุรกิจจัดหา และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ความปลอดภัย มูลค่า 42.78 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้ปีนี้ 12.83 ล้านบาท
"ผลประกอบการของบริษัทฯในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้มีการเติบโตอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในส่วนของความสามารถในการทำกำไรในภาพรวมที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจเทรดดิ้งด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯก็จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจใหม่ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้รวมของบริษัทฯเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้" นายไรวินท์กล่าว