กลุ่มไทคอน โชว์รายได้ครึ่งปีแรก 1,028 ล้านบาท

พุธ ๑๖ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๐:๒๙
กลุ่มไทคอน ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2560 เป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 1,028 ล้านบาท พร้อมชำระเงินกู้ 5,910 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิลดลงเหลือ 0.38 เท่า ตอกย้ำมั่นใจธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตได้ตามแผนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแบบครบวงจรในอาเซียน รายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทไทคอนในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 135 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิจำนวน 45 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้หลักมาจากรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 347 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,028 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 140 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ ยังได้ชำระคืนเงินกู้จำนวน 5,910 ล้านบาท โดยใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา จึงทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงประมาณ 93 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 1.92 เท่า ณ สิ้นปี 2559 เป็น 0.38 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2560 ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 2/2560 ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 7,145.5 ล้านบาท

"ผลการดำเนินงานของกลุ่มไทคอนในครึ่งปีแรก 2560 บริษัทฯ มีพื้นที่เช่าโรงงานเพิ่มขึ้น 26,657 ตารางเมตร และคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 117,731 ตารางเมตร ซึ่งลูกค้าทั้งหมดของ TICON และ TPARK ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 332 ราย โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติมากกว่าร้อยละ 90 และกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นลูกค้าประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ จากการรุกทำตลาดนักลงทุนจีนทำให้กลุ่มไทคอนมีสัดส่วนของลูกค้าประเทศจีนให้ความสนใจเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อิเลคทรอนิคส์ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และโมเดิร์นเทรด" นายวีรพันธ์ กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ของไทยในครึ่งหลังของปี 2560 นั้นจะยังคงเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศโดยตรง (FDI) ที่ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่เห็นการชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะนักลงทุนต้องการความชัดเจนด้านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐ ซึ่งก็มีแนวโน้มได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นสัญญาณในเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจของกลุ่มไทคอนในพื้นที่อีอีซี ได้เป็นอย่างดี

นายวีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "กลุ่มไทคอนได้เตรียมพร้อมในการรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในพื้นที่อีอีซี ซึ่งครอบคลุมทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง นอกจากนี้ กลุ่มไทคอนยังมีข้อได้เปรียบในด้านแลนด์แบงค์ในพื้นที่อีอีซีซึ่งมีครอบครองอยู่มากกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งพร้อมนำมาพัฒนาเป็นโรงงานและคลังสินค้าสำหรับรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้านี้อีกด้วย นอกเหนือจากการเดินหน้าขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในพื้นที่อีอีซี แล้ว กลุ่มไทคอนยังพัฒนาโครงการ TPARK ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ จ.ขอนแก่น และ จ.ลำพูน ซึ่งได้เปิดให้บริการคลังสินค้าเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่อีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าการขยายการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ยังคงขยายการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการขนาดพื้นที่รวม 30,000 ตารางเมตร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่โครงการในเฟสที่ 1 และ 2 มีลูกค้าเช่าพื้นที่เต็มแล้ว และยังวางแผนซื้อที่ดินเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อลงทุนต่อเนื่องอีกด้วย

ในส่วนของการเพิ่มทุนของ บริษัท เฟรเซอร์ เซ็นเตอร์พอยต์ ลิมิเต็ด เมื่อต้นปีที่ผ่านมายังนับเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยส่งผลดีให้กับกลุ่มไทคอนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ฐานะการเงินของกลุ่มไทคอนมีสถานะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสามารถนำ Know-how ของกลุ่มเฟรเซอร์สมาต่อยอดเชิงธุรกิจได้เป็นอย่างดี จึงทำให้บริษัทฯได้รับประโยชน์เต็มที่จากการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของไทคอนในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี" นายวีรพันธ์ กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version