ปัจจัยหนุนให้ธุรกิจสุขภาพและความงามโตแรง เพราะสามารถสร้างยอดขายทำลายสถิติในเดือนก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เป็นผลมาจากเราเป็นรายเดียวที่มีวิสัยทัศน์แตกต่างจากรายอื่น มีการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจนำความสำเร็จจากธุรกิจสื่อที่ทำเรตติ้งติดท็อปไฟว์ของประเทศ มาต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่ขยายเข้าสู่ตลาดสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลก ผนวกกับจุดแข็งมีความถนัดและแม่นยำด้านการตลาด อาทิ เพิ่มช่องทางการขายและทำโปรโมชั่นได้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งพัฒนาและเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ให้เหนือคู่แข่งในตลาด ตลอดจนบริหารข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อทีวีกำลังย่ำแย่หาบทสรุปและทางออกไม่เจอ แต่ช่อง 8 เป็นรายเดียวในกลุ่มดิจิตอลทีวีที่มีความแข็งแกร่ง เติบโตยั่งยืน อนาคตดี และชัดเจน พิสูจน์ได้จากรายได้ธุรกิจสื่อไตรมาสนี้ขยับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน อันเป็นผลมาจากช่อง 8 ทำเรตติ้งสูงขึ้นกว่า 30% เป็นแรงส่งสำคัญช่วยคงความแข็งแกร่งเรตติ้งติดท็อปไฟว์ของประเทศ เพราะนำเสนอคอนเทนต์โดนใจผู้ชมทั้งช่วงเช้าไพร์มไทม์ คือ "คุยข่าวเช้า" คว้าเรตติ้งอันดับ 1 กลุ่มรายการข่าวของดิจิตอลทีวี และช่วงเย็นไพร์มไทม์ ได้แก่ ละคร ซีรีส์บอลลีวู้ดอย่าง "สีดาราม ศึกรักมหาลงกา" และกลุ่มรายการมวย "8 แม็กซ์ มวยไทย-เดอะ แชมปเปี้ยน มวยไทยตัดเชือก-มวยไทย แบทเทิล" ส่งผลให้ปริมาณการซื้อโฆษณาเพิ่มขึ้น
ด้าน แผนการดำเนินงานไตรมาส 3 ของช่อง 8 ทยอยเติมคอนเทนต์ใหม่ลงจอต่อเนื่อง นำโดย ซีรีส์บอลลีวู้ดเรื่องใหม่"หนุมาน สงครามมหาเทพ" ยึดหน้าจอช่วงไพร์มไทม์วันจันทร์ถึงพฤหัสบดี เวลา 19.00 น. ต่อด้วยเวลา 20.30 น. ละครใหม่ 2 เรื่องรวด คือ ใจลวงและเงาอาถรรพ์ รวมทั้งผลิต 2 รายการวาไรตี้ใหม่ ได้แก่ "ติดหนึบ" จับกลุ่มเป้าหมายผู้ชื่นชอบติดตามไลฟ์สไตล์ศิลปินดารา ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00 น. "สบายเดย์ เฮยกบ้าน" จับกลุ่มเป้าหมายครอบครัว ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. และตอกย้ำความสำเร็จเปิดรายการข่าวใหม่ "คุยข่าวค่ำ" มั่นใจว่าทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนเรตติ้งให้เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่ธุรกิจสุขภาพและความงามเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (SKU)ทั้งกลุ่มสกินแคร์ แฮร์แคร์ และอาหารเสริม เพื่อเพิ่มความหลากหลายและโอกาสทางการขายมากขึ้น รวมทั้งขยายช่องทางจำหน่ายเข้าไปในร้านค้าปลีกใหม่ๆ ตลอดจนมีพันธมิตรใหม่หลายรายสนใจและกำลังเจรจาขอนำสินค้าคุณภาพมาขายผ่านช่องทาง Telesales ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ ประมาณเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้เตรียมเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ 4 แห่ง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย เพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ โดยเฉพาะความสำเร็จจากการทรานฟอร์มโมเดลธุรกิจ ที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนสถาบันรับทราบโดยทั่วกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีกระแสตอบรับดีเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา