โดยความสำเร็จของการร่วมทุนครั้งนี้ ได้รับการตอบรับทั้งจากนักลงทุนรายใหม่และผู้ถือหุ้นเดิม นำโดย เฮิร์ซท์ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อจากอเมริกา ที่มีสื่อและบริการครอบคลุมทุกรูปแบบ, นักลงทุนจากหน่วยงานกำกับดูแลการลงทุนในสิงคโปร์ (EDBI) และลูกค้าของธนาคาร DBS ส่วนการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมก็มี เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย (Evolution Media), บริษัท สกาย มหาชน (Sky PLC), แคทชา กรุ๊ป (Catcha Group), ลิเบอร์ตี้ โกลบอล (Liberty Global), จังเกิล เวนเจอร์ส (Jungle Ventures) และพีแอลดีที (PLDT Inc.)
ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2558 ไอฟลิกซ์มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่ ทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ในประสบการณ์ความบันเทิง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ โดยจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ธุรกิจไอฟลิกซ์เติบโต ขยายการให้บริการจาก 4 เป็น 19 ประเทศทั่วเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับสนุนจาก 27 ผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมชั้นนำ เพื่อมอบความบันเทิงให้ลูกค้าได้สนุกกับซีรีส์และหนังบนไอฟลิกซ์
ธุรกิจไอฟลิกซ์เติบโตทั้งในจำนวนสมาชิกที่เพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า และสถิติการเข้าร่วมใช้งานของสมาชิกเติบโตขึ้นถึง 3 เท่า โดยการใช้งานมือถือในบริการต่างๆทั่วโลก มีระยะเวลาเฉลี่ยสูงสุดถึง 2.5-2.75 ชั่วโมงต่อครั้ง บริษัทจึงเล็งเห็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 230 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ทางไอฟลิกซ์จึงให้ความสำคัญกับการแปลคำบรรยาย ซึ่งปัจจุบัน ไอฟลิกซ์มีคำบรรยายกว่า 26,000 ชั่วโมงใน 9 ภาษา และการคัดสรรคอนเทนท์ในแต่ละประเทศ โดยไอฟลิกซ์ นับเป็นคลังรวมซีรีส์ หนัง รายการทีวี หลายหมื่นชั่วโมงจากสตูดิโอและผู้จัดจำหน่ายคอนเทนท์กว่า 230 รายใน 30 ประเทศ
โดยความสำเร็จในการร่วมทุนนี้ ทำให้ภายในปีนี้ไอฟลิกซ์ปิดดีลได้ร่วมทุนถึง 7.5 พันล้านบาท (220 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) เพื่อใช้ในการพัฒนาคอนเทนท์ในแต่ละประเทศ โดยจากที่ผ่านมา ไอฟลิกซ์ได้ผลิตซีรีส์คอมเมดี้ โอ๊ย จากา มูลุต (Oi Jaga Mulut) ในมาเลเซีย ทั้งยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม พร้อมร่วมกับทีวีวัน (TVOne) ในการฉายฟุตบอลพรีเมียร์แบบสตรีมออนไลน์ครั้งแรกในอินโดนีเซีย ซึ่งขึ้นแท่นรายการที่มีสมาชิกเข้าดูสูงสุดกว่า 34,000ราย ภายในอาทิตย์แรก นอกจากนี้ ไอฟลิกซ์ ฟิลิบปินส์ ยังได้คริส อากีโน (Kris Aquino) เจ้าแม่วงการสื่อของฟิลิบปินส์ ในการร่วมเป็นที่ปรึกษาในการสร้างซีรีส์ดราม่าใหม่ด้วย
นาย มาร์ค บริทท์ (Mark Britt) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไอฟลิกซ์ กล่าวว่า "ผมยินดีเป็นอย่างมากที่ สตีเวน สวอทซ์ (Steven Swartz) ประธานและกรรมการบริหาร และนิราจ เขมลานิ (Neeraj Khemlani) ประธานบริหารของบริษัท เฮิร์ซท์ เอนเตอร์เทนเมนต์ แอนด์ ซินดิเคชั่น (Hearst Entertainment & Syndication) มาร่วมเป็นครอบครัวไอฟลิกซ์ ในขณะที่ไอฟลิกซ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและริเริ่มสร้างสรรค์ให้สมาชิกของเราได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เฮิร์ซท์ เป็นนักลงทุนแนวหน้าของโลก ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ที่สร้างสรรค์โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ESPN , A+E Networks, AwesomenessTV, Complex ฯลฯ โดยจากความร่วมมือครั้งนี้ยังได้การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเดิม ที่ร่วมมือกันมาอย่างยาวนาน อย่าง เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย, สกาย และ ลิเบอร์ตี้ โกลบอล เพื่อเสริมให้ไอฟลิกซ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง "
"จากจุดเริ่มต้น ไอฟลิกซ์ต้องการส่งต่อสุดยอดความบันเทิงสู่ผู้บริโภคในแต่ละประเทศ พร้อมนำเสนอความบันเทิงรูปแบบใหม่ให้ผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่ได้ชม โดยเราจะนำเงินทุนในครั้งนี้ มาเสริมและพัฒนาศักยภาพในการบริหารคอนเทนท์ของแต่ละประเทศและเสริมสร้างทีมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาบริการไอฟลิกซ์ให้สามารถตอบรับความท้าทายของตลาดเกิดใหม่ได้อย่างทันถ่วงที"
นายนิราจ เขมลานิ ประธานบริหารของ เฮิร์ซท์ เอนเตอร์เทนเมนต์ แอนด์ ซินดิเคชั่น เผยว่า "ไอฟลิกซ์กำลังเติบโตไปกับกลุ่มคนระดับกลางในตลาดเกิดใหม่ ที่มีความชื่นชอบคอนเทนท์จากต่างประเทศและในประเทศ โดยเรายินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับพันธมิตรใหม่ของเรา อย่าง อาทิ สกาย, ลิเบอร์ตี้ โกลบอล, เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย และแคทชา กรุ๊ป รวมถึง บริษัทโทรคมนาคมในตลาด ที่ร่วมสนับสนุนไอฟลิกซ์เป็นอย่างดี"
ผู้ถือหุ้นเดิม อย่าง เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย และแคทชา กรุ๊ป ได้เข้าร่วมทุนของเราอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการระดมทุนก่อนหน้านี้และการสนับสนุนในรอบนี้ด้วย
นายริค เฮส (Rick Hess) ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนร่วมบริหารบริษัทเอเวอร์ลูชั่น มีเดีย กล่าวว่า "ในฐานะหุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งไอฟลิกซ์ เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย รวมถึงแคทชา กรุ๊ป และมาร์ค เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะให้บริการกับผู้บริโภคอีก 1 พันล้านคน เราประทับใจมากกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของไอฟลิกซ์ที่ผ่านมา และเรียนรู้อะไรใหม่ๆเกี่ยวกับพฤติกรรมการเสพความบันเทิงของตลาดเกิดใหม่ เราทึ่งกับการที่การเรียนรู้และพัฒนาของไอฟลิกซ์เพื่อสร้างความบันเทิงรูปแบบใหม่นี้"
นายแพทริค โกรฟ (Patrick Grove) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแคทชา กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเรา เพื่อสร้างวิธีในการรับชมและเพลิดเพลินกับคอนเทนท์ของผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่ โดยตั้งแต่เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2558 ไอฟลิกซ์ยังคงมุ่งมั่นในการมอบความบันเทิงสู่สมาชิกของเราอย่างต่อเนื่อง"
โดยการร่วมมือในครั้งนี้ ไอฟลิกซ์ ได้รับคำแนะนำจาก โมลลิส( Moelis), เดลต้า พาร์ทเนอร์ (Delta Partners) และ เฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์ (Herbert Smith Freehills)