"ทาง SACICT ให้ทุนด้านความคิดกับดิฉัน เพื่อนำไปพัฒนาชิ้นงานหัตถกรรมส่งเข้าประกวด ทำให้ดิฉันสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จนประสบความสำเร็จ SACICT ให้ทุกอย่าง ทั้งในเรื่องความรู้ในการทำตลาด หรือสนับสนุนช่องทางด้านการขาย เช่น การให้มาเปิดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในงานต่างๆ ทำให้พวกเรามีความคล่องตัว สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ว่าทำผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว จะนำไปขายที่ไหน"
นอกจากจะเป็นครูสอนด้านงานหัตถกรรมแล้ว ครูวาสนายังได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับงาน จักสานและลวดลาย และนำมาประยุกต์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้มีรูปแบบสอดคล้องกับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ด้วย คือ มีทั้งความแปลกตา และร่วมสมัย ทำให้ผลงานได้รับความสนใจจากตลาดมากยิ่งขึ้น
"ดิฉันทำงานกับชุมชน สร้างให้ชุมชนมีรายได้ โชคดีที่ทาง SACICT มองเห็นและให้โอกาส จึงเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุน ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้ แนะนำให้พวกเรามุ่งเน้นไปที่การทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี เน้นการทำเพื่อนำไปขาย และสอนให้รู้จักการทำตลาด ทำให้รูปแบบงานจักสานของเราพัฒนาดีขึ้นมาก และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากขึ้น ซึ่งตัวดิฉันเองก็พยายามที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่แปลกตา น่าสนใจ เพื่อให้สามารถทำตลาดได้ดี ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ของเราขายดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เมื่อก่อนชาวบ้านบางคนไม่เคยมีรายได้เลย แต่ตอนนี้พอเข้ามาทำงานด้วยกัน เวลาที่มีออเดอร์มา บางคนสามารถสร้างรายได้ถึงวันละ 500 บาทต่อวัน หรืออย่างน้อยๆ ก็มีรายได้ 250 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบ้านไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในวันนี้พวกเขาทำได้ นั่นเป็นเพราะทาง SACICT มองเห็นคุณค่าและช่วยส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาให้พวกเรามีศักยภาพสูงขึ้นจนมีวันนี้ได้"
ครูวาสนายังกล่าวในตอนท้ายอีกว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นชิ้นงานหลักในตอนนี้จะเป็นประเภทงานโคมไฟ โดยมีชิ้นงานที่โดดเด่นคือ "โคมไฟปะการัง" ที่ใช้เทคนิคงานจักสานไม้ไผ่ซึ่งเป็นงาน หัตกรรมคู่คนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเธอได้นำเทคนิคงานจักสานนี้มาผสมผสานกระบวนการคิดเชิงออกแบบ พลิกแพลงเทคนิคเก่าแก่จากเครื่องใช้ในบ้านทั่วไปกลายเป็นโคมไฟปะการัง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปฟอร์มที่สวยงามของธรรมชาติ และผลงานชิ้นนี้ได้เคยนำไปจัดแสดงที่ประเทศสก็อตแลนด์มาแล้ว นอกจากนั้นก็จะเป็นชิ้นงานประเภทของตกแต่งและเครื่องแขวน ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นี่คือส่วนหนึ่งของงานหัตถศิลป์จากช่างฝีมือคนไทย ที่ SACICT ได้มีส่วนช่วยดึงเอาความสามารถภายในตัวบุคคลออกมาให้คนทั่วไปได้เห็น ด้วยการส่งเสริม พัฒนา และต่อยอด จนสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน และสร้างรายได้กลับไปยังชุมชนอีกด้วย