ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำครึ่งปีแรกของปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 224.74 ล้านบาท โดยที่กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นในส่วนของโครงการใหม่ๆที่ทยอยรับรู้รายได้ เนื่องจากกลุ่มบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยมีโรงไฟฟ้าที่สร้างแล้วเสร็จและดำเนินการเชิงพาณิชย์จำนวน 4 โรง ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้บริษัทฯยังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ขนาด 1 เมกะวัตต์ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 37 โครงการกำลังการผลิตเสนอขายรวม 298.42 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นในประเทศ 29 โครงการกำลังการผลิตเสนอขาย 121.7 เมกะวัตต์ และประเทศญี่ปุ่น จำนวน 8 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายจำนวน 176.72 เมกะวัตต์
โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯมีกำหนดจ่ายไฟเข้าระบบจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงต้นไตรมาสสุดท้ายอีกประมาณ 3.24 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีแผนที่จะเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกจำนวน 1-2 โครงการ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในระหว่างเจรจา และศึกษาโครงการ คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 154.98 เมกะวัตต์
ในขณะที่ความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 3 โครงการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช กำลังการผลิตรวม 22.2 เมกะวัตต์ ล่าสุดบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะ เวิลด์ จำกัด และบริษัท บางสวรรค์ กรีน จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK วงเงิน 2,257.50 ล้านบาท สำหรับลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ดำเนินการโดยบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะ เวิลด์ จำกัด (OSCAR)จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายโครงการละ 8.8 เมกะวัตต์ รวม 17.6 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าประเภทโรงไฟฟ้าชีวมวล และได้รับสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.แล้ว โดยที่โรงไฟฟ้าชีวมวล OSCAR ทั้ง 2 โรงจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ หรือ COD สำหรับโรงไฟฟ้า OSCAR 1 ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 และเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับโรงไฟฟ้า OSCAR 2 ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอีก 1 โครงการจะดำเนินการโดยบริษัท บางสวรรค์ กรีน จำกัด หรือ BSW กำลังการผลิตเสนอขาย 4.6 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งโรงไฟฟ้าชีวมวล BSW จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ หรือ COD ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2560
"ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้เราเร่งดำเนินการในการขยายกำลังการผลิตในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในทุกโครงการมีความคืบหน้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนการได้รับเงินกู้จาก EXIM Bank ในการลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งของกลุ่มบริษัทฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัท และผู้ถือหุ้น เนื่องจากเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ซึ่งโครงการใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการให้เราสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในอนาคต" ดร.แคทลีนกล่าว