จากข้อมูลองค์การสหประชาชาติในปี 2557 ประชากรมีการย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้นในแต่ละปี ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นถึง 2 ใน 3 ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมดภายในปี 2593 และมีการคาดการณ์ว่าประชากรเหล่านี้จะขับขี่ยานยนต์ของพวกเขาเอง ซึ่งส่งผลให้การเดินทางภายในเมืองยากลำบากขึ้น ในปีที่ผ่านมาผู้ใช้ยานยนต์ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 7.8 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ปัญหาอุบัติเหตุ มลพิษ พื้นที่จอดรถที่ไม่เพียงพอได้ส่งผลให้การเดินทางภายในเมืองเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น คอนติเนนทอล ผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านระบบขับขี่อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน จึงพัฒนาโซลูชั่นระบบขนส่งสาธารณะในเมือง เพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นายแฟรงก์ จอร์แดน กรรมการบริหารของคอนติเนนทอลและหัวหน้าแผนกธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัยกล่าวว่า "ในอนาคตการเดินทางในเมืองจะใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติ และยานยนต์ไฟฟ้า นี่คือสาเหตุที่ทำให้คอนติเนนทอลพัฒนาโซลูชั่นสำหรับรถยนต์ไร้คนขับอย่าง Robo-Taxis ซึ่งได้เริ่มทดสอบระบบแล้วในปีนี้ คอนติเนนทอลมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมสำหรับโซลูชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ ตัวควบคุม (control unit) หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีสื่อสารและระบบเชื่อมต่อ (Communication and Networking Technology)"
ทั้งนี้บริษัทที่ปรึกษาอย่าง Roland Berger เปิดเผยว่า ภายในปี 2573 บริการระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถยนต์ไร้คนขับจะมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คอนติเนนทอลคิดค้นโครงการที่มีชื่อว่า "Self-Driving Car"
คอนติเนนทอลได้พัฒนายานยนต์สาธิต (Demo vehicle) ไร้คนขับออกมา ที่มีชื่อว่า CUbE (Continental Urban mobility Experience) โดยมีการทดสอบระบบครั้งแรกที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่มีองค์ประกอบด้านการจราจรครบถ้วน เช่น เครื่องหมายจราจรหลายรูปแบบ ทางคนข้าม หรือทางโค้งรูปแบบต่างๆ เพื่อให้การทดสอบเป็นไปอย่างเสมือนจริงที่สุด ภายใน CUbE ประกอบไปด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง และเซนเซอร์ที่ได้ใช้งานจริงในยานยนต์ที่ได้ผลิตออกมาจำหน่ายแล้ว รวมถึงติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ เช่น เลเซอร์เซนเซอร์ ระบบเหล่านี้ถูกพัฒนามาเพื่อควบคุมยานพาหนะให้สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติและมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ดร. อองเดรย์ ฮอห์ม หัวหน้าโครงการ "Self-Driving Car" ของคอนติเนนทอล กล่าวว่า "การทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอย่าง CUbE จะทำให้เราทราบว่าระบบทั้งหมดที่ถูกติดตั้งในยานพาหนะ มีความปลอดภัยต่อผู้โดยสารมากน้อยเพียงใด และการทดสอบดังกล่าวยังช่วยให้เราพัฒนากลยุทธย์ของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างถูกต้อง"
ด้วยการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอย่าง CUbE คอนติเนนทอลจึงกลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยี Robo-Taxi นาย จอร์แดน กล่าวว่า "ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รถยนต์ไร้คนขับอย่าง CUbE ได้เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราทราบว่า เราได้เลือกเวลาที่เหมาะสมในการทดสอบ ซึ่งในอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายสำหรับรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งคอนติเนนทอลเองก็คือหนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบเซ็นเซอร์ หน่วยควบคุมอัลกอริทึม ระบบเบรก และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน
ยานยนต์ไร้คนขับ Robo-Taxi จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่ส่วนใหญ่ถูกจอดทิ้งไว้ถึง 23 ชั่วโมงต่อวัน ตัวอย่างเช่น ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลินกว่า 3.5 ล้านคน ใช้เวลาโดยเฉลี่ยถึง 70 นาทีต่อวันในการเดินทาง ระยะทางเฉลี่ยประมาณ 20.2 กิโลเมตร ผู้คนส่วนใหญ่ใช้รถยนต์เพื่อเดินทางในระยะสั้นๆ ดังนั้น Robo-Taxi จึงเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้การเดินทางภายในเมืองเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ผลิตยางคุณภาพ และคู่ค้าทางธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม คอนติเนนทอลนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความปลอดภัยสูง พร้อมความสะดวกสบาย ปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ และราคาเหมาะสม คอนติเนนทอลประกอบไปด้วยธุรกิจ 5 กลุ่ม คือ ธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัย ธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ธุรกิจระบบขับเคลื่อน ธุรกิจยางรถยนต์ และธุรกิจยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์ ซึ่งมียอดขายรวม 40.5 พันล้านยูโรในปี 2559 ปัจจุบัน คอนติเนนทอลมีพนักงานกว่า 230,000 คนใน 56 ประเทศทั่วโลก