กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สานต่อแนวพระราชดำริในการถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชน จึงได้จัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์ทางไกลผ่านดาวเทียมถ่ายทอดสู่โรงเรียนกว่า 30,000 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อให้ เด็กนักเรียนกว่า 3 ล้านคนสามารถเข้าถึงวิชาสหกรณ์โดยผ่านการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม และชมวิธีการสอนวิชาสหกรณ์ในรูปแบบกิจกรรมให้กับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายทุกห้องเรียน ซึ่งการสอนวิชาสหกรณ์ผ่านการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นการดำเนินโครงการเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการปลูกจิตสำนึกเกี่ยวกับกระบวนการสหกรณ์ ตลอดจนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้แก่เด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทั่วทุกภูมิภาค ได้มีโอกาสเข้าถึงวิชาสหกรณ์ เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า การถ่ายทอดวิชาสหกรณ์ทางไกลผ่านดาวเทียมไปยังโรงเรียนเป้าหมาย 30,000 กว่าแห่งประเทศ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการและมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในการร่วมจัดทำหลักสูตรการสอนวิชาสหกรณ์เพื่อถ่ายทอดไปยังโรงเรียนเป้าหมายทั่วประเทศ ซึ่งในเทอมที่ 1 จะสอนในวิชาสหกรณ์ทางไกลผ่านดาวเทียมในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายใน 1 ปี และเมื่อเด็กนักเรียนได้รับความรู้ในทางทฤษฎีไปแล้ว ก็จะมีการทดลองปฏิบัติจริง โดยมีกิจกรรมร้านค้าสหกรณ์ควบคู่ไปด้วย เพราะว่าต้องเรียนไปด้วย และปฏิบัติไปด้วย ถึงจะเข้าใจในเรื่องสหกรณ์อย่างถ่องแท้
ซึ่งทางกรมฯมีแนวคิดที่จะพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบวิธีการถ่ายทอดความรู้วิชาสหกรณ์ เพื่อให้มีความน่าสนใจและนักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงให้ความสำคัญเรื่องของการสหกรณ์ ในทุกโครงการที่พระองค์ท่านมีพระราชดำริให้ดำเนินการ จะใช้วิธีการสหกรณ์เข้าไปพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการต่างๆ มีความเข้มแข็ง สำหรับโรงเรียนวังไกลกังวล เป็นโรงเรียนที่ทรงอุปถัมภ์ ในอดีตที่ผ่านมาพระองค์ทรงเสด็จฯมาเป็นพระอาจารย์ด้วยพระองค์เอง กรมส่งเสริมสหกรณ์รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถือว่าเป็นความโชคดีที่ได้รับโอกาสจากทางโรงเรียน ให้เข้ามาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิธีการสหกรณ์ให้กับนักเรียน เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริของพระองค์สู่เยาวชนรุ่นหลังสืบไป" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
สำหรับโรงเรียนวังไกลกังวล นอกเหนือจากการจัดหลักสูตรการสอนวิชาสหกรณ์โดยถ่ายทอดทางไกลผ่านดาวเทียมแล้ว ยังมีการสอนวิชาสหกรณ์ในชั้นเรียน และการจัดกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าในโรงเรียนควบคู่กัน เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าในได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การจัดหลักสูตรวิชาสหกรณ์จะดำเนินการให้สอดคล้องกับโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เปิดสอนวิชาสหกรณ์ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ผนวกเข้ากับวิชาสังคมศึกษา จำนวน 3 ห้องเรียน ส่วนกิจกรรม ที่ 2 จะสอนเรื่องสหกรณ์ในชั่วโมงชมรมสหกรณ์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 ห้อง โดยจะเรียนรวมกันทั้งหมด และจะมีการผลิตสื่อการสอนวิชาสหกรณ์ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้เรื่องสหกรณ์ให้กับนักเรียนแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ ซึ่งจะเน้นหนักในหลักการ วิธีการสหกรณ์ เพื่อให้เด็กได้มีความรู้ในเรื่องสหกรณ์ และแนวทางในการทำงานร่วมกัน การรู้จักเสียสละแบ่งปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามแนวทางของสหกรณ์ เพื่อให้เด็กเติบโตและนำความรู้ด้านสหกรณ์ไปใช้ได้ในอนาคต
สำหรับกิจกรรมร้านค้าสหกรณ์ โรงเรียนวังไกลกังวลได้ดำเนินการร้านค้าสหกรณ์อย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ.2558 โดยทางศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 16 จังหวัดเพชรบุรีได้เข้ามาแนะนำเกี่ยวกับระบบการจัดการร้านค้าในรูปแบบสหกรณ์ เพราะว่าร้านสหกรณ์แห่งนี้เปิดขึ้นมาจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งให้ดำเนินการจัดตั้งร้านค้าสหกรณ์ขึ้นในโรงเรียนและดำเนินการในถูกต้องตามรูปแบบร้านค้าสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเข้ามาปรับปรุงร้านค้า จัดทำป้ายภายในร้าน และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 16 ทำหน้าที่เป็น พี่เลี้ยง เข้ามาดูแลกิจการร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนวังไกลกังวลอย่างเต็มรูปแบบ
ผลจาการพัฒนาการดำเนินการร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนวังไกลกังวลในปีที่ผ่านมา มีกำไรจำนวน 300,000 กว่าบาท เนื่องจากเด็กนักเรียนให้ความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกร้านสหกรณ์ของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนจะเน้นในเรื่องการปฏิบัติ จะสอนให้รู้จักความพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อหรือฟุ่มเฟือย โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต กิจกรรมต่อจากนี้คือจะมีการเปิดสอนอาชีพเสริมให้กับนักเรียน เช่น การทำผ้าบาติก การปลูกผักอินทรีย์ การทำเกษตรกรรมและการเลี้ยงไก่ เป็นต้น เนื่องจากต้องการให้เด็กได้มีแนวทางในการทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ในกรณีที่บางคนไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ ก็ยังสามารถหาเลี้ยงตนเอง ช่วยเหลือครอบครัว สามารถประกอบอาชีพได้ และมีความรู้ในการประกอบอาชีพให้กับตนเอง เพื่อมีรายได้ในการยังชีพ และยังเปิดโอกาสให้นักเรียนนำสินค้าและผลผลิตจากการฝึกทำอาชีพเสริมมาวางขายในร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนด้วย
กรมส่งเสริมสหกรณ์คาดหวังว่า "โรงเรียนวังไกลกังวล" เป็นโมเดลต้นแบบของการเสริมสร้างการเรียนรู้วิชาสหกรณ์ให้กับนักเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างเข้มแข็งด้วยแนวทางสหกรณ์ เป็นการเริ่มต้นสังคมเล็กๆ ในโรงเรียน ที่นำวิชาสหกรณ์มาเสริมสร้างพฤติกรรมและลักษณะนิสัยที่ดีให้กับเยาวชนเพื่อที่จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่และรับผิดชอบต่อสังคม เพราะหลักการของสหกรณ์เป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน ที่ทุกคนต้องรู้จักการทำงานร่วมกัน คิดวางแผนร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของสมาชิก ต้องมีความอดทน เสียสละและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียนยังเป็นกระบวนการที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีของนักเรียนให้งอกงามและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นด้วย