บลจ.บีแคป เปิดจองไอพีโอกองทุน BSET100 ETF

จันทร์ ๒๘ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๐๙:๕๑
"บลจ.บางกอกแคปปิตอล" เตรียมส่งอีทีเอฟ "กองทุน BSET100" ไอพีโอ 28 ส.ค. – 4 ก.ย. นี้ เคาะราคาขาย 10 บ. ลุยหุ้นไทยคุณภาพขนาดใหญ่-กลาง ชูจุดเด่นผลตอบแทนระยะยาวในอดีต 10 ปีที่ผ่านมาเหนือกว่าหุ้นใหญ่เฉลี่ย 1% ต่อปี-ความเสี่ยงไม่ต่างกัน กลุ่มอุตสาหกรรมกระจายตัวดีกว่าและโฟกัสหุ้นอิงการเติบโตในประเทศมากขึ้น

ดร.ธนาวุฒิ พรโรจนางกูร หัวหน้าสายงานจัดการกองทุน บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขาย "กองทุนเปิด BCAP SET100 ETF (BSET100)" ระหว่างวันที่ 28 ส.ค. – 4 ก.ย. 2560 โดยกองทุน BSET100 เป็นกองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund : ETF) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET100 ทั้งนี้กองทุนจะใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด ซึ่งกองทุน BSET100 นี้เป็นกองทุนอีทีเอฟกองที่2 ของบริษัทต่อจาก "กองทุนเปิด BCAP MSCI Thailand ETF FUND (BMSCITH)" ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มโพรดักท์ของบริษัทตามแผนงานที่วางเอาไว้ด้วย

"กองทุน BSET100 นี้ จะเป็นการลงมาโฟกัสในหุ้นขนาดใหญ่และกลางทั้ง 100 บริษัท ของตลาดหุ้นไทย ที่ครอบคลุมกว่า 90% ของมูลค่าโดยรวมของหุ้นสามัญที่สามารถเปลี่ยนมือได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นถ้านักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสามารถลงทุนผ่านกองทุน BSET100 ได้เลย เสมือนหนึ่งลงทุนในหุ้นไทยที่ลงทุนได้ไปแล้วกว่า 90% จะมีอีก 10% ที่จะเป็นกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งนั่นก็อยู่ในแผนงานของบริษัทที่จะจัดทำกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดเล็กต่อไปในอนาคตด้วยเช่นกัน"

ดร.ธนาวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า กองทุน BSET100 มุ่งเน้นที่จะลงทุนเต็มที่ตลอดเวลา (Fully Invested) ซึ่งจะใช้กลยุทธ์แบบFull Replication ในการเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์ทุกตัวที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET100 ดังกล่าว ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกันกับที่ใช้กับกองทุน BMSCITH ดังนั้นคาดว่าในแง่ของค่าความคลาดเคลื่อนจากการแทรคดัชนี (Tracking Error) ของกองทุนBSET100 จะต่ำเช่นเดียวกับกองทุน BMSCITH ที่อยู่ประมาณ 0.06% เท่านั้น สำหรับกองทุน BSET100 จดทะเบียนกองทุนไว้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจากการศึกษาด้วยการทำข้อมูลย้อนหลัง (Back Test) แล้วพบว่า กลยุทธ์การลงทุนนี้สามารถรองรับขนาดกองทุนไปถึงระดับ 5,000 ล้านบาท ได้อย่างสบาย

นอกจากนี้กองทุน BSET100 ยังมีจุดเด่น คือ การเข้าไปลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET100 ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่-กลางนั้น จากข้อมูลในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา (ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) พบว่า ผลตอบแทนของดัชนีSET100 เฉลี่ยอยู่ที่ 9.34% ต่อปี ในขณะที่ดัชนี MSCI Thailand และดัชนี SET50 เฉลี่ยอยู่ที่ 8.09% และ 8.95% ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นว่าผลตอบแทนของดัชนี SET100จะชนะดัชนีหุ้นขนาดใหญ่เฉลี่ยอยู่ประมาณ 1% ต่อปี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในระยะยาวหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่จะมีพรีเมี่ยมที่มากกว่ากลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อยู่แล้ว

ซึ่งหากมองมาที่ค่าความเสี่ยง (S.D.) ของดัชนี SET100 เฉลี่ยอยู่ที่ 21.91% ในขณะที่ของดัชนี MSCI Thailand และดัชนี SET50 เฉลี่ยอยู่ที่ 21.57% และ 21.61% ตามลำดับ ซึ่งใกล้เคียงกันกับกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่

"จุดเด่นของดัชนีSET100 คือ การกระจายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มากกว่าและโฟกัสมาในหุ้นที่เน้นการเติบโตจากภายในประเทศมากขึ้น (Domestic Play) ซึ่งทำให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบจากภายนอกประเทศน้อยลง และมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่าเพราะโฟกัสมาในหุ้นที่เป็นท้องถิ่น (Local) มากขึ้น เน้นการเติบโตจากภายในประเทศ ทำให้มีศักยภาพในการเติบโตที่ดีกว่าด้วยเช่นกันในระยะยาว หากดูกลุ่มดัชนีผ่านกองทุน BMSCITH จะมีอยู่ 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ในขณะที่ในกองทุน BSET100 จะมีถึง 18 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งบางอุตสาหกรรมจะไม่มีอยู่ในกองทุน BMSCITH เช่น เงินทุนหลักทรัพย์ ธุรกิจการเกษตร บรรจุภัณฑ์ รับเหมาก่อสร้าง หรือท่องเที่ยว เป็นต้น"

ดร.ธนาวุฒิ กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของสภาพคล่องในตลาดรองมั่นใจว่าจะทำได้ดีเช่นเดียวกับกองทุน BMSCITH เพราะได้บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งเป็นบริษัทแม่ทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสภาพคล่องในตลาดให้ (Market Maker) เพียงรายเดียว ซึ่งบริษัทแม่เองต้องการเห็นบริษัทลูกมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมาเสนอให้กับลูกค้า มากกว่าที่จะดูแค่มิติของผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าขนาดของกองทุน BSET100 จะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองแต่ประการใด ในส่วนของนโยบายจ่ายเงินปันผลนั้นบริษัทตั้งใจที่จะจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนอยู่แล้ว

สำหรับกองทุน BSET100 นี้ บริษัทได้กำหนดราคาขายเอาไว้ที่ 10 บาทต่อหน่วย และในช่วงไอพีโอบริษัทจะไม่คิดค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) กับนักลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจจะลงทุนกับกองทุน BSET100 สามารถจองซื้อผ่านบมจ.ธนาคารกรุงเทพและบมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก 20,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 1,000 บาท ซึ่งหลังจากไอพีโอแล้วจะนำหน่วยลงทุนของกองทุน BSET100 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 60 เป็นต้นไป

"แม้ตลาดหุ้นไทยในภาพรวมปีนี้อาจจะยังไม่เติบโตมากนัก แต่จากนี้ไปถึงสิ้นปีก็ยังมองว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะยังคงดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ได้ และหากมองภาพที่ยาวขึ้นของตลาดหุ้นไทยแล้ว ถ้ากำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงเติบโตได้ตามคาด ในขณะที่ราคาตลาดหุ้นไทยยังไม่ขยับหวือหวา เชื่อมั่นว่าในท้ายที่สุดนักลงทุนต่างชาติเองก็ต้องกลับมามองตลาดหุ้นไทยเช่นเดียวกัน และอยากให้นักลงทุนมองการลงทุนในหุ้นเป็นภาพระยะยาวด้วยเช่นกัน" ดร.ธนาวุฒิกล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version