กฟภ.นำทัพโรดโชว์ ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ บุกขอนแก่น อวดโฉมเทคโนโลยีไฟฟ้า แสงสว่าง พร้อมจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เสริมภาครัฐและเอกชน

จันทร์ ๒๘ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๗:๑๒
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และดิ เอ็กซ์ซิบิส เดินสายจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0" ที่จังหวัดขอนแก่น อัพเดทเทคโนโลยีอัจฉริยะและโซลูชั่นเพื่อการพัฒนาเมือง เสริมแกร่งให้กับธุรกิจ พร้อมนำผู้ร่วมออกบูธ อวดโฉมเทรนเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่างล่าสุด เสริมทัพด้วยวิศวกรรมไฟฟ้า อาคารอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัย คับคั่ง

การจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017" (Thailand Lighting Fair 2017) ซึ่ง กฟภ. จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดิ เอ็กซ์ซิบิส ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ โดยในปีนี้ได้มีการขยายโซนแสดงเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอาคารอัตโนมัติ (Building Zone) ตามแนวงาน light+building งานแสดงนวัตกรรมด้านไฟฟ้าแสงสว่างและอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จัดโดยเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี พร้อมงาน Secutech Thailand 2017 ภายใต้แนวคิด "Smart City. Safe City."

นายปิยิน ตลับนาค ปลัดจังหวัดขอนแก่น ประธานเปิดงาน กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นในฐานะหนึ่งในจังหวัดนำร่องการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ มีความยินดีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและคณะผู้จัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 เลือกจังหวัดขอนแก่นเป็นเวทีในการจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชน ในจังหวัดขอนแก่นได้อัพเดทเทรนด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง วิศวกรรมไฟฟ้า อาคารอัตโนมัติและระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมเจรจาธุรกิจกับผู้ร่วมออกบูธที่นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมไปถึงต่อยอดสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งเติบโตต่อไป

"สำหรับการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การขยายตัวของชุมชนเมืองและความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีมากขึ้น ทั้งด้านการค้า การลงทุน รวมถึงการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ได้สนับสนุนให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นขอนแก่น สมาร์ทซิตี้ การพัฒนาประสิทธิภาพของไฟส่องสว่างตามท้องถนนและพื้นที่สาธารณะต่างๆ จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด อีกทั้งการส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูง อย่างเช่น หลอดไฟ LED การใช้พลังงานทดแทนอย่างโซล่าเซลล์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่น ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในเรื่องของการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี" นายปิยิน ตลับนาค กล่าว

นายเจด็จ วิศรี ผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต1(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ PEA 4.0 มีการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ อาทิ การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ(Smart Grid) ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าเข้ากับระบบสารสนเทศและระบบสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดทำโครงข่ายมิเตอร์อัจฉริยะ(Smart Meter) ที่ช่วยให้การทำงานของระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ซึ่งทั้งสองโครงข่ายนี้ จะเป็นรากฐานที่ดีสู่การพัฒนาบ้าน อาคาร และนำไปสู่เมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ในที่สุด

"ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี กฟภ. จึงมีความยินดีในการสนับสนุนงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทย ในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน พร้อมมุ่งหวังให้งานนี้ เป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม จะได้พบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเฟ้นหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในปีนี้บูธ PEA พาวิลเลียน จะจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการใช้ไฟฟ้าและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำเสนอแนวคิดใหม่ของพลังงานอัจฉริยะหรือสมาร์ท เอนเนอร์จี" นายเจด็จ วิศรี กล่าว

นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด ผู้จัดงาน กล่าวว่า การจัดงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2 ครั้งที่ผ่านมา ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากนักธุรกิจ อีกทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน จากทั้งในและต่างประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าชมงานสูงกว่า 8,000 คน นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จ ในฐานะงานแสดงนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างที่ครบวงจรที่สุดในอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่างของอาเซียน การจัดงานปีนี้ จึงมีความยิ่งใหญ่และพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยได้เพิ่มโซนแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางด้านอาคารอัตโนมัติและวิศวกรรมไฟฟ้า ตามแนวทางการจัดงาน light + building ประเทศเยอรมนี ของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกับงาน Secutech Thailand 2017 งานแสดงเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ทโฮม การป้องกันอัคคีภัยและวิบัติภัย ซึ่งถือเป็นเวทีที่รวบรวมเทคโนโลยีและโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมาไว้ในที่เดียวกัน ครอบคลุมทั้งด้านไฟฟ้าแสงสว่าง วิศวกรรมไฟฟ้า ระบบอาคารอัตโนมัติ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอย่างครบครัน โดยคาดว่าจะมีบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมงานกว่า 700 บูธ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก

"ในปีนี้ทางคณะผู้จัดงานฯ ได้วางแผนประชาสัมพันธ์การจัดงานเชิงรุกแบบบูรณาการ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ หลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการจัดโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มต้นการจัดโรดโชว์ที่จังหวัดภูเก็ต และที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทั้งสองจังหวัด เป็นจังหวัดนำร่องที่รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ(สมาร์ท ซิตี้) ในการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังได้จัดโรดโชว์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเชิญชวนนักธุรกิจและนักพัฒนาเมืองในประเทศเหล่านี้เข้าร่วมงาน เพื่ออัพเดทและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ตลอดจนเจรจาธุรกิจกับผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เนื่องจากภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเป้าหมาย ล้วนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและกำลังต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ" นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ กล่าวเสริม

ภายในงานยังมีไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจ อาทิเช่น "Smart City. Safe City. Landmark" โซนจำลอง "เมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัย" โซนที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงาน ได้ร่วมสัมผัสเมืองอัจฉริยะผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมืองอาทิ Smart Street Lighting, Smart Home, Smart Retail, Smart City Surveillance และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ไฟฟ้าแสงสว่าง โครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเมืองและแพลตฟอร์มสำหรับ IoT" พร้อมพบกับสุดยอดการประชุม 4 ฟอรั่มใหญ่ จากวิทยากรชั้นนำผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจากทั้งในและต่างประเทศ ที่จะร่วมอัพเดทเทรนด์ การต่อยอดทางธุรกิจผ่านแสงไฟและอนาคตของโลกไฟฟ้าแสงสว่าง รวมไปถึงกรณีศึกษาจากโครงการขนาดใหญ่ ที่จะมาเปิดเผยเทคนิคเรื่องแสงไฟอย่างหมดเปลือก นอกจากนี้ ยังเปิดอบรมหลักสูตรด้านมาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงการเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้างาน ฟรี! ได้ที่ www.thailandlightingfair.com หรือบริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์ 02-664-6499 ต่อ 200 โทรสาร 02-664-6477 หรือที่อีเมล [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ