'เอ็นริช' พร้อมลุยตลาดอสังหาฯเดินหน้าปั้นแบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่

ศุกร์ ๐๑ กันยายน ๒๐๑๗ ๐๙:๑๙
"เอ็นริช" เปิดตัวปั้นแบรนด์พร้อมลุยตลาดอสังหาฯหลังซุ่มเงียบผุดโครงการกวาดยอดขายแล้ว 3 โครงการ เร่งเดินหน้าอีก 2 โครงการภายในปีนี้ นำร่องยึดทำเลกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก ชูคุณภาพโปรดักส์โดนใจ เน้นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มความคุ้มค่า มาพร้อมดีไซน์ล้ำเจาะคนรุ่นใหม่

คุณสุพิชา พงศ์ศีลธน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัท เอ็นริช เปิดเผยว่า บริษัทเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี โดยลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและเปิดขายไปแล้ว 3 โครงการในพื้นที่โซนตะวันตก ย่านถนนกาญจนาภิเษก ประกอบด้วย โครงการเอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า (ENRICH PARK) โครงการธารา ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (TARA) และโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า(THE MARQ) ซึ่งถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดีจากตลาด สะท้อนผ่านยอดขายของแต่ละโครงการที่เดินหน้าค่อนข้างรวดเร็ว แม้จะไม่ได้ทำการตลาดผ่านสื่อ mass media มากนัก และในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เอ็นริชมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มอีก 2 โครงการ

สำหรับจุดแข็งที่ทำให้เอ็นริชสามารถเจาะตลาดได้เป็นอย่างดี เป็นผลมาจากการที่บริษัทเน้นพัฒนาคุณภาพโปรดักส์ และพื้นที่ใช้สอยเพื่อการอยู่อาศัยจริง ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา ส่งผลให้แม้แบรนด์จะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากลูกค้า ตั้งแต่โครงการแรกของบริษัท ในชื่อโครงการเอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า (ENRICH PARK) และโครงการต่อมาคือ โครงการธารา ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (TARA) ที่เริ่มขยายกลุ่มเป้าหมายมาสู่คนรุ่นใหม่ และโครงการล่าสุด คือ โครงการเดอะมาร์ค (THE MARQ) ปิ่นเกล้า ที่เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามในเรื่องการออกแบบและวัสดุที่ใช้ในโครงการ

"ที่ผ่านมา เอ็นริช เน้นเรื่องพัฒนาโครงการบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ทำให้เราให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ อีกทั้งนโยบายในการขยายธุรกิจเรามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานบริษัทให้แข็งแรง ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และสินค้าผ่านทุกโครงการที่เราได้สร้างสรรค์ขึ้น ด้วยเป้าหมายสำคัญคือการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งแต่ละโครงการของเอ็นริชจะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ได้เจาะจงว่าจะอยู่ในตลาดไฮเอนหรือตลาดแมส แต่มองถึงความเหมาะสมของทำเล และรูปแบบโครงการมากกว่า ทำให้ฐานลูกค้าของเรามีความหลากหลาย แต่ทุกโครงการมีแนวคิดที่สำคัญ คือ "Creating Your Practical Life" ด้วยเป้าหมายสำคัญเพื่อการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่นอกจากจะสวยงาม ยังต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงผ่านรายละเอียด การใช้พื้นที่ และฟังค์ชั่น สำหรับทุกคนในครอบครัว"

ที่ผ่านมา เอ็นริช ได้สร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยรวมแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เอ็นริช พาร์ค ปิ่นเกล้า เปิดโครงการในปี 2551 ในรูปแบบโครงการบ้านหรูราคาขาย 25 – 60 ล้านบาท จำนวน 105 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ถือเป็นการจับกลุ่มลูกค้าระดับบน ด้วยทำเลที่ตั้งติดถนนกาญจนาภิเษก และโครงการที่สอง คือ โครงการธารา ราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ในถนนสวนผัก ใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช ถนนกาญจนาภิเษก เพียง 900 เมตร และใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ- ตลิ่งชัน) ซึ่งถือเป็นโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ด้วยราคาขาย 3.99 – 7 ล้านบาท เป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายครอบครัว และล่าสุด คือ โครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ พาซิโอ พาร์ค คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ บนถนนกาญจนาภิเษก เพียง 100 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช บนถนนกาญจนาภิเษก และถนนพระเทพตัดใหม่ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 15.99 - 25 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีความโดดเด่นทั้งทำเลที่ตั้ง และการออกแบบโครงการที่นอกจากจะสวยงามในสไตล์โมเดิร์นแล้ว ยังตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ เอ็นริช ยังเตรียมเปิดโครงการต่อไปในช่วงต้นปี 2561 ในชื่อ โครงการคูณ ราชพฤกษ์ (KUUN) ทำเลที่ตั้งยังอยู่ในโซนตะวันตก ใกล้วงเวียนพระราม 5 ริมถนนราชพฤกษ์ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง มีจำนวน 20 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13.99 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ถือได้ว่าเป็นการส่งต่อความสำเร็จจากโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีกับรูปแบบบ้านสไตล์ Urban Luxury ซึ่งเรามั่นใจอย่างยิ่งว่า โครงการคูณ ราชพฤกษ์ จะได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเดียวกัน ด้วยความโดดเด่นของทำเลที่ตั้ง และคอนเซ็ปต์การออกแบบที่เน้นการผสมผสานดีไซน์ที่สวยงามและแลนด์สเคปที่ลงตัว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ด้วยพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่ากว่า 300 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา

คุณสุพิชา กล่าวเพิ่มเติมว่า "เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการต่างๆ ของเอ็นริช อยู่บนพื้นที่ในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตกนั้นเหตุผลหนึ่งมาจากการที่ครอบครัวมีรากฐานอยู่ในโซนนี้และเก็บสะสมที่ดิน (แลนด์แบงก์) ในทำเลที่คุ้นเคยมาต่อเนื่อง แต่การพัฒนาโครงการจากนี้ไปของเอ็นริช จะไม่จำกัดขอบเขตอยู่แค่โซนตะวันตก แต่พร้อมที่จะขยายการลงทุนในไปพื้นที่อื่นๆ ที่เล็งเห็นว่ามีศักยภาพ โดยจะมองหาจังหวะในการเข้าไปลงทุนอย่างเหมาะสม แม้แต่แนวรถไฟฟ้าก็ถือว่าน่าสนใจ พร้อมจะเข้าไปลงทุน"

อย่างไรก็ตาม มองว่าทำเลในโซนตะวันตกยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อกัน ทำให้มีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น อย่างเช่นโครงการทางด่วนศรีรัช วงแหวนรอบนอกที่เชื่อมจากบางใหญ่ไปจตุจักร ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้มาก ส่งผลให้มีผู้สนใจโครงการของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมูลค่าที่ดินก็ปรับสูงขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบัน โครงการธารา ราชพฤกษ์ - ปิ่นเกล้า มีการพัฒนาไปแล้ว 8 เฟส รวมทั้งหมด 390 ยูนิต โดยเปิดขายเฟสสุดท้ายต้นเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งพัฒนาเป็นทาวน์โฮมจำนวน 19 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท และขายหมดแล้วภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนโครงการเดอะมาร์ค ปิ่นเกล้า มีจำนวน 26 ยูนิต เปิดขายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขายไปแล้ว 17 ยูนิต เหลือเพียง 9 ยูนิต เพราะโครงการนี้เรียกได้ว่าเอ็นริช พลิกรูปแบบบ้านของฝั่งตะวันตกจากความโมเดิร์นของแบบบ้านและฟังก์ชั่นการใช้งาน

"ตอนแรกเปิดโครงการเดอะมาร์คตั้งใจจะใช้เวลาขายปีครึ่ง แต่ตอนนี้เปิดมา 4 - 5 เดือนเราปรับแผนใหม่จะจบให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพราะนอกจากทำเล ที่เรียกได้ว่าดีมากๆแล้ว ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานก็ตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แยกครอบครัว ดูจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาปรากฎว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ นับเป็นโปรเจ็กต์ที่เราภูมิใจมาก อีกทั้งโครงการ เดอะมาร์ค ยังได้ถูกเลือกเข้าประกวดใน Thailand Property Awards 2017 และเข้าชิงถึง 2 สาขาด้วย"

นอกจากนี้ คุณสุพิชา ยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้นั้นที่หลายคนอาจห่วงเรื่องซัพพลายล้นตลาดว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละโครงการ ว่าพัฒนาโครงการได้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและถูกที่ถูกเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีดีมานต์อยู่ เพราะเมืองก็ขยาย ในขณะเดียวกันแนวโน้มของการขยายครอบครัวของคนเมืองก็มีสูงมากขึ้น ดังนั้นความต้องการบ้านใหม่ยังมีอยู่ แต่ว่าต้องวิเคราะห์ให้ตรงและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้

"เชื่อว่าในตลาดอสังหาฯ ปัจจุบัน ถ้าเราจับ Real Demand มันก็ยังไปได้แน่นอน ส่วนดีมานด์เทียมเราก็ยอมรับว่ามีมานานแล้ว คือ การปั่นยอดขาย หรือคนเก็งกำไรก็เป็นอะไรที่คู่กับตลาดมานานแล้ว ซึ่งคิดว่ายังไงก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว บางคนมองว่าทำเลดีน่าซื้อเก็บไว้ สักพักค่อยขายต่อ มันเป็นเรื่องปกติของตลาด เราต้องทำความเข้าใจกับมันแต่สำหรับเอ็นริช ส่วนใหญ่จับตลาดบ้านเดี่ยว ต้องบอกว่าคนที่มาซื้อส่วนใหญ่90%จะเป็นคนอยู่อาศัยจริง โอนจริง" คุณสุพิชา กล่าวในตอนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version