กสิกรไทยเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนใน Vertex Ventures SEA/India Fund III เป็นแบงก์แรก

อังคาร ๐๕ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๐:๑๑
Vertex Ventures Southeast Asia and India (Vertex SEA/India) ประกาศว่าธนาคารกสิกรไทยเป็นนักลงทุนสถาบันแห่งแรกของไทยที่ได้เข้าเป็นพันธมิตร รวมทั้งเป็นนักลงทุนประเภทธนาคารรายแรกของกองทุนฟันด์ 3

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าเป็นพันธมิตรกับ Vertex Ventures ของสิงคโปร์ โดยเข้าร่วมเป็นผู้ลงทุนใน Vertex Ventures Southeast Asia and India Fund III (Vertex SEA/India) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีศักยภาพและประสบการณ์สูง ประสบความสำเร็จในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพระยะเริ่มแรก เช่น การเป็นนักลงทุนสถาบันรายแรกที่ลงทุนใน Grab เป็นต้น จึงเชื่อมั่นว่าการที่ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าเป็นพันธมิตรผ่านการลงทุนในกองทุนฟันด์ 3 ครั้งนี้ เครือข่ายพันธมิตรของ Vertex Ventures จะช่วยให้ธนาคารฯ ได้เข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ในภูมิภาค และสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีโลกในการติดตามนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและแบบแผนทางธุรกิจในภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของไทย ได้จัดตั้งบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ขึ้นเป็นหน่วยงานใหม่ล่าสุดที่จะดูแลด้านการลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน (venture capital fund – VC fund) และธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมทางการเงินซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคาร มีวงเงินลงทุนเริ่มต้นจำนวน 1,000 ล้านบาท กำหนดนโยบายที่จะลงทุนโดยตรงในธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยและต่างประเทศและการลงทุนผ่าน VC fund ชั้นนำ มีนายธนพงษ์ ณ ระนอง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ

นายคี ล็อค ฉัว หุ้นส่วนผู้จัดการ Vertex SEA/India กล่าวว่า ทางกองทุนมีความยินดีที่ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้ นับเป็นนักลงทุนสถาบันแห่งแรกของไทยที่ได้เข้าเป็นพันธมิตร รวมทั้งเป็นนักลงทุนประเภทธนาคารรายแรกของกองทุนฟันด์ 3 ด้วย ธนาคารกสิกรไทยนับว่าเป็นธนาคารฯ ที่มีความก้าวหน้าในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางของธนาคารฯ และการทำงานร่วมกันของทั้งสองสถาบันจะนำไปสู่โอกาสทางการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่กองทุนนี้มีการลงทุนอยู่ ทั้งนี้ พบว่าการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพในภูมิภาคนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากจำนวนเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2551 เป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของการลงทุนดังกล่าวเป็นสตาร์ทอัพที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เรามั่นใจว่าจากความสนใจของประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีเพิ่มขึ้นต่อธุรกิจสตาร์ทอัพและระบบการร่วมลงทุน จึงเชื่อว่าการเจริญเติบโตของธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในอนาคต

ฟินเทค นับว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของกองทุนนี้ เนื่องมาจากบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างคุณค่าในสาขาธุรกิจการเงินได้มากขึ้น ที่ผ่านมา กองทุน Vertex SEA/India ได้ลงทุนในฟินเทคที่หลากหลาย เช่น Instarem – แพลทฟอร์มของการชำระเงินระหว่างประเทศทางออนไลน์ Validus – แพลทฟอร์มการให้กู้ยืมแก่ SME และ Turnkey Lender – แพลทฟอร์มการจัดการด้านเงินกู้ของธนาคารบนระบบคลาวด์ และเชื่อมั่นว่าด้วยองค์ความรู้ของธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินของไทย จะเป็นประโยชน์ต่อกองทุนในการลงทุนในฟินเทคภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน

Vertex Venture SEA Management ซึ่งได้รับการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโดยธนาคารกลางของประเทศสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore – MAS) ได้จัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นหลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จในการลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนใน Grab ซึ่งเพิ่งสามารถระดมทุนจาก Softbank และ Didi Chuxing ได้ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 นอกจากนี้ Vertex SEA/India ยังเป็นนักลงทุนสถาบันรายแรกที่ลงทุนในธุรกิจเด่น ๆ ในภูมิภาค เช่น Patsnap, M17 และ Reebonz สำหรับกองทุนฟันด์ 3 จะลงทุนตามยุทธศาสตร์ของ Vertex คือ มุ่งเน้นธุรกิจที่มีศักยภาพและนวัตกรรมในระดับสูง โดยจะสร้างธุรกิจดังกล่าวให้กลายเป็นธุรกิจระดับโลกต่อไป ขณะนี้กองทุนฟันด์ 3 มีขนาดที่ใหญ่กว่าเป้าหมายคือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว และกำลังจะปิดกองครั้งสุดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ