กฟภ.นำทัพ ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ อวดโฉมเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง บุกหัวเมืองภาคตะวันออก ขานรับ EEC พร้อมจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เสริมแกร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ศุกร์ ๐๘ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๖:๔๘
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดิ เอ็กซ์ซิบิส เดินสายจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0" ที่จังหวัดชลบุรี ขานรับ EEC หรือโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่ออัพเดทเทรนเทคโนโลยีและโซลูชั่นในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ พร้อมยกทัพเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง อาคารอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัย ร่วมออกบูธอย่างคับคั่ง

นายวรานนท์ ยิ้มมงคล ปลัดจังหวัดชลบุรี ในฐานประธานเปิดงาน กล่าวว่า ชลบุรีในหนึ่งในสามจังหวัด ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กระทรวงดีอี) ดำเนินการโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ให้เป็นสมาร์ทซิตี้ เช่นเดียวกับ เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อยกระดับให้เป็นเมืองดิจิทัล ทั้งยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด ซึ่งการดำเนินงานจะต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับโครงการและแผนนโยบายทางเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นการเลือกจังหวัดชลบุรี เป็นเวทีในการจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0" จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน รวมถึงภาครัฐและองค์กรส่วนท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะที่มีความปลอดภัย และเมืองที่มีการใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมีศักยภาพ

นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา ผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 (ภาคกลาง) จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ได้กำหนดแนวนโยบาย PEA 4.0 ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ The Electric Utility of the Future ที่มีความมั่นคง ได้มาตรฐาน มีความทันสมัย และความยั่งยืน โดยศักยภาพดังกล่าวจะนำไปสู่การก้าวเดินอย่างมั่นคงและยั่งยืนในยุคของ Thailand 4.0 และด้วยวิสัยทัศน์ของ PEA เราได้วางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี รองรับนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนและเชื่อว่าจะเป็นรากฐานที่ดีที่จะนำไปสู่เมืองอัจฉริยะในที่สุด อาทิ การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือ Smart Grid ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงไฟฟ้า ระบบสารสนเทศ ระบบสื่อสาร และการจัดทำโครงข่ายมิเตอร์อัจฉริยะ หรือ Smart Meter ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ มั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือและได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล

" PEA ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การเข้ามาให้การสนับสนุนการจัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับการจัดงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน พร้อมมุ่งหวังให้การจัดงานดังกล่าว เป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม จะได้พบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเฟ้นหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทย ให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับนานาประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล" นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา กล่าว

นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด ผู้จัดงาน กล่าวว่า สำหรับการจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017" (Thailand Lighting Fair 2017) ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดิ เอ็กซ์ซิบิส ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งการจัดงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ในปีที่ผ่านมาได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากนักธุรกิจ องค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีจำนวนผู้เข้าชมงานมากกว่า 8,000 คน นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จ ในฐานะงานแสดงนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างที่ครบวงจรที่สุดในอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่างของอาเซียน การจัดงานปีนี้ จึงมีความยิ่งใหญ่และพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยได้เพิ่มโซนเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอาคารอัตโนมัติ (Building Zone) ตามแนวทางการจัดงาน light + building ประเทศเยอรมนี ของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับงาน Secutech Thailand 2017 งานแสดงเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ทโฮม การป้องกันอัคคีภัยและวิบัติภัย ซึ่งถือเป็นเวทีที่รวบรวมเทคโนโลยีและโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมาไว้ในที่เดียวกัน ครอบคลุมทั้งด้านไฟฟ้าแสงสว่าง วิศวกรรมไฟฟ้า ระบบอาคารอัตโนมัติ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอย่างครบครัน โดยคาดว่าจะมีบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมงานกว่า 700 บูธ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ คณะผู้จัดงานฯ ยังได้ประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ หลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการจัดโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น และครั้งนี้ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดเป็นจังหวัดนำร่องที่รัฐบาลกำหนดให้พัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ(Smart City) ในการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ที่จังหวัดชลบุรี เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลได้จัดทำโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ที่ดำเนินมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา

"พร้อมกันนี้ยังได้จัดโรดโชว์ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ ประเทศลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ เพื่อเชิญชวนนักธุรกิจและนักพัฒนาเมืองในประเทศเหล่านี้เข้าร่วมงาน เพื่ออัพเดทและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้นำเทคโนโลยีจากประเทศดังกล่าว ซึ่งล้วนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและกำลังมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศของตน" นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ กล่าวเสริม

สำหรับไฮไลท์สำคัญภายในงานปีนี้ ได้แก่ "Smart City. Safe City. Landmark" ซึ่งเป็นโซนจำลอง"เมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัย" ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมสัมผัสเมืองอัจฉริยะผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมือง Smart Street Lighting, Smart Home, Smart Retail, Smart City Surveillance และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้แนวคิด "ไฟฟ้าแสงสว่าง โครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเมืองและแพลตฟอร์มสำหรับ IoT" และการประชุม 4 ฟอรั่มใหญ่ จากวิทยากรชั้นนำผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจากทั้งในและต่างประเทศ ที่จะร่วมให้ความรู้และอัพเดทเทรนในอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่าง รวมไปถึงกรณีศึกษาจากโครงการขนาดใหญ่ ทั้งยังเปิดอบรมหลักสูตรด้านมาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงการเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจอีกมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้างาน ฟรี! ได้ที่ www.thailandlightingfair.com หรือบริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์ 02-664-6499 ต่อ 200 โทรสาร 02-664-6477 หรือที่อีเมล [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ