การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ร่วมสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ 2017 (PTT THAILAND LPGA MASTERS 2017) จัดโดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2560 ณ สนามปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ ถนนรามอินทรา กรุงเทพมหานคร ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกของรายการที่เป็นการแซงค์ชั่นระหว่าง 3 สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ได้แก่ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี (ไทยแอลพีจีเอ), ไชน่าแอลพีจีเอ และออสเตรเลียนแอลพีจี อีกทั้งนักกอล์ฟอาชีพสตรีที่ทำผลงานได้ดีจะได้รับคะแนนสะสมในการจัดอันดับโลก หลังจากการจัดการแข่งขันในปี 2559 ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการแซงค์ชั่นกันเป็นครั้งแรกระหว่าง สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี (ไทยแอลพีจีเอ) และออสเตรเลียนแอลพีจี
การแถลงข่าวความร่วมมือในการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ 2017 จัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 7 กันยายน 2560 ณ ห้องแบมบู สนามปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ ซึ่งเป็นสนามที่ใช้ในการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2556 และครั้งนี้นับเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 5 ของรายการ โดยในงานแถลงข่าวมีผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
คุณวิบูณ จำปาเงิน ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงการส่งเสริมการจัดการแข่งขัน ว่า "การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะภาครัฐที่ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ 2017 ครั้งนี้ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนากีฬาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นส่วนการบริหารจัดการการแข่งขันที่จะได้พัฒนาการจัดการแข่งขันในประเทศไทย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล และนำไปสู่นโยบายการเป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับภูมิภาค เกิดการพัฒนาบุคลากรทางด้านกีฬา รวมทั้งถือว่าเป็นอีกเวทีหนึ่งที่นักกีฬาจะได้แสดงฝีมือ และได้พัฒนาศักยภาพ ให้เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถของประเทศ เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลกยิ่งขึ้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันในปีนี้จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด"
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนหลัก โดยคุณสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ได้กล่าวถึงบทบาทการให้การสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ ว่า "กลุ่มบริษัท ปตท. มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ อีกครั้งหนึ่ง เราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการให้การสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมทางด้านกีฬา เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม และเพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังความชื่นชอบทางด้านกีฬาตั้งแต่ระดับเยาวชน เพื่อให้ได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือและสร้างเสริมความสามารถทางด้านกีฬาจนยึดเป็นอาชีพ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในฐานะนักกีฬาอาชีพได้ต่อไป กลุ่มบริษัท ปตท. จึงถือเป็นภารกิจหลักและสำคัญของเรา นอกเหนือจากการดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานหลักของประเทศ เราจึงได้ให้การสนับสนุนกีฬาหลากหลายประเภท ในทุกระดับ ทั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานกีฬาต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อนำพาชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และสร้างสุขภาพที่ดีในหมู่ประชาชน เราเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่เราได้ตั้งเป้าหมายไว้ อีกทั้งจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนกอล์ฟชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก และเป็นส่วนในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา"
คุณอนุชา แสงแก้ว ผู้จัดการแผนกกิจกรรมสัมพันธ์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า "ในนามของสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ที่ได้ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องมานาน และได้เห็นการพัฒนาศักยภาพของทั้งนักกอล์ฟที่เริ่มเข้าสู่การแข่งขันตั้งแต่ระดับเยาวชน จนกลายเป็นนักกอล์ฟอาชีพ และเห็นความตั้งใจของสมาคมฯ ที่เป็นกำลังหลักในการผลักดันและสร้างเวทีให้นักกอล์ฟเหล่านั้นได้แสดงฝีมือ รวมทั้งบุคลากรทางด้านกีฬา ซึ่งเป็นส่วนในการช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟ ขยายไปสู่การพัฒนาประเทศ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเติบโตเช่นนี้ และยังยึดมั่นในนโยบายที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ต่อไป อีกทั้งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ตอบแทนสังคม และร่วมส่งเสริมให้นักกอล์ฟสตรีของไทยได้มีเวทีเพื่อก้าวขึ้นสู่การแข่งขันในระดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ การได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ นับเป็นหนึ่งในความยินดีและภูมิใจของเราที่จะได้เห็นความสำเร็จของรายการที่จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 อีกครั้งหนึ่ง"
ทั้งนี้ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ในฐานะเจ้าของรายการและผู้จัดการแข่งขัน โดย คุณปฏิญญา ควรตระกูล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ได้กล่าวปิดท้ายการแถลงข่าวการแข่งขันครั้งนี้ ว่า "สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ผู้จัดการแข่งขัน ใคร่ขอขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง เราได้พยายามพลักดันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากอล์ฟสตรีในบ้านเรา เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟสตรีของไทยได้พัฒนาฝีมือสู่สากล เราภูมิใจที่ได้สร้างเวทีแข่งขันระดับนานาชาติขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้นักกอล์ฟไทยได้มีโอกาสแข่งขันรายการใหญ่ในบ้าน นอกจากนี้สิ่งที่เราคาดหวังอีกประการหนึ่งก็คือ การได้ช่วยส่งเสริมให้นักกอล์ฟเยาวชนรุ่นใหม่ได้มีประสบการณ์เพื่อการก้าวขึ้นเป็นมืออาชีพต่อไป การแข่งขันครั้งนี้นับเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 5 ของรายการ และเป็นครั้งแรกที่เกิดจากความร่วมมือกันของ 3 สมาคมระดับภูมิภาค อันได้แก่ ไทยแอลพีจีเอ, ไชน่าแอลพีจีเอ และออสเตรเลียนแอลพีจี และเป็นครั้งแรกของรายการที่เราได้เพิ่มจำนวนนักกอล์ฟสตรีจากเดิมในปีที่แล้ว 84 คน ขึ้นมาเป็น 114 คน ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเกมกอล์ฟระหว่างผู้เล่นด้วยกัน อีกทั้งเป็นปีแรกที่นักกอล์ฟที่ร่วมแข่งขันจะได้เก็บคะแนนสะสมเพื่อจัดอันดับโลกด้วย ในปีนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากทรูวิชั่นส์เช่นเคย ในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน วันพฤหัสบดี ที่ 14 และวันศุกร์ ที่ 15 กันยายน ผ่านทางช่องทรูสปอร์ตเอชดี 2 เพื่อให้แผนกอล์ฟได้รับชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดได้อีกช่องทางหนึ่ง"
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ 2017 (PTT THAILAND LPGA MASTERS 2017) มีนักกอล์ฟสตรีเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 114 คน จาก 16 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นนักกอล์ฟสตรีจากอันดับของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี (ไทยแอลพีจีเอ) จำนวน 40 คน นักกอล์ฟสตรีจากอันดับของไชน่าแอลพีจีเอ จำนวน 44 คน นักกอล์ฟสตรีจากอันดับของออสเตรเลียนแอลพีจี จำนวน 20 คน และนักกอล์ฟสตรีรับเชิญ จำนวน 10 คน ทำการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 รอบ รอบละ 18 หลุม รวม 54 หลุม โดยนักกอล์ฟสตรีที่มีคะแนนรวม 50 อันดับแรกและเสมอ หลังจากจบการแข่งขัน 36 หลุม หรือ 2 รอบแรกของการแข่งขัน จะผ่านการตัดตัวเข้าสู่การแข่งขันรอบที่ 3 เป็นรอบสุดท้ายในวันที่ 15 กันยายน 2560 เพื่อชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท และคะแนนสะสมในการจัดอันดับโลก โดยนักกอล์ฟอาชีพที่เป็นผู้ชนะของรายการจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 600,000 บาท
กำหนดการถ่ายทอดสดการแข่งขันในวันพฤหัสบดี ที่ 14 กันยายน เวลา 13.30 – 16.30 น. และวันศุกร์ ที่ 15 กันยายน เวลา 11.30 – 14.30 น. ผ่านทางช่องทรูสปอร์ตเอชดี 2 ในเครือข่ายของทรูวิชั่นส์ จำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน ณ จุดจำหน่ายบัตรภายในบริเวณสนามแข่งขันฯ ราคา 100 บาท/ท่าน ผู้ชมอายุต่ำกว่า 18 ปี และ สูงกว่า 60 ปี เข้าชมฟรี สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันได้ที่ www.thailpga.com หรือทาง THAI LPGA Official Fanpage (facebook.com/thailpgafanpage)