โดยในงานจัดให้มีพิธีถวายอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การแสดง ชุด "ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์" โดยคณะขับร้องเพลงประสานเสียง East Wind และคณะขับร้องเพลงประสานเสียงโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ การแสดงองก์ที่ 1 น้ำคือชีวิต ในบทเพลงชะตาชีวิต เพลงพระราชาในนิทาน และเพลงสายฝน ผ่านการเล่าเรื่องโครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาพิกุลทองโดยผู้แทนชุมชน การแสดงองก์ที่ 2 แผ่นดินคือร่างกาย ในบทเพลงหนังสือในมือเรา เพลงของขวัญจากก้อนดิน ผ่านการเล่าเรื่องโดยผู้แทนนักเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ และผู้แทนชุมชน การแสดงองก์ที่ 3 ป่าไม้คือลมหายใจ ในบทเพลงคิดถึงพ่อ เพลงต้นไม้ของพ่อ และเพลงยิ้มสู้ ผ่านการเล่าเรื่องโดยผู้แทนจากมหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเชียและผู้แทนชุมชน หลังจากนั้นผู้ร่วมงานร่วมกันขับร้องเพลงรักในดวงใจนิรันดร์
ดร.โชติรัส ชวนิชย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเชีย ได้กล่าวว่า "วันนี้นับเป็นวันที่สำคัญและมีค่าอย่างยิ่งที่ประชาชนชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะชาว จ.นราธิวาส ได้มาร่วมใจกันเพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ด้วยเวลาอันยาวนานกว่า 40 ปี ที่พระองค์ทรงเสด็จมาที่นราธิวาสแห่งนี้ ซึ่งประชาชนที่อยู่ ณ ช่วงเวลานั้นได้มาเล่าขานสิ่งต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจนกระทั่งทุกวันนี้ โดยที่เยาวชนและประชาชนรุ่นใหม่ ๆ ได้รับทราบเรื่องราวต่าง ๆ จากหนังสือ หรือสารคดีบ้างแต่ก็ยังไม่เข้าใจมากนัก เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสดีที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันนำเอาความรู้สึกที่เหมือนกันมาร่วมรำลึกถึงพระองค์ท่านในวันนี้ และมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชียได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับทางโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ จัดงานในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติโดยผ่านทางสุนทรียะเพื่อให้เกิดการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนต่อไป"
นายไพศาล ตอยิบ ผู้รับใบอนุญาตและผู้จัดการโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ พระองค์ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขด้วยทศพิธ ราชธรรม ทรงมีพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในทุก ๆ ด้าน ดังปรากฏเด่นชัดและเห็นได้จากพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย อันเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก ซึ่งเห็นได้จากโครงการพระราชดำริฯ โครงการส่วนพระองค์ และโครงการพระราชทานต่าง ๆ กว่า 4,000 โครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ พระองค์ยังได้พระราชทานพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และแนวทางต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนน้อมนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติในการทำงาน การดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงและมีความสุขอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา หากแต่ โครงการและโครงงานใด ๆ ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้แล้วนั้น ล้วนเป็นสิ่งลำค่าที่ประชาชนคนไทยทุกคนต้องหวงแหน รักษาไว้ ตามแนวทางที่ว่า ก้าวตามรอยพระราชา สานต่อที่พ่อทำ โดยทำตามหลักแนวทางของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระผู้เป็นมิ่งขวัญกลางจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ"