นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีดำริให้ดำเนินงานโครงการตลาดนัดสินค้าชุมชนข้างทำเนียบรัฐบาล ริมคลองผดุงกรุงเกษม ภายใต้ชื่อ "ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม" เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าเป็นตลาดต้นแบบที่ถือได้ว่าเป็นการขยายผลสู่ตลาดนัดชุมชน 4.0 โดยมุ่งหวังให้เป็นพื้นที่ในการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการได้จำหน่ายสินค้าคุณภาพสู่ผู้บริโภคโดยตรงในราคายุติธรรม สร้างทางเลือกในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ และมีการบูรณาการหน่วยงานในการขับเคลื่อนโครงการฯ ซึ่งได้มอบหมายให้ส่วนราชการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า
"ตลาดนัดคลองผดุงกรุงเกษมในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 35 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เป็นเจ้าภาพในการจัดงานในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่สำคัญมากในการช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อย ( Micro SME) ได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าทั้งค้าส่งและค้าปลีก โดยตั้งเป้ายอดขายในงานนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท "นางสาลินี กล่าว
สสว. ฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การส่งเสริม SME ของประเทศ ได้คัดสรรสินค้าคุณภาพดีจาก SME ทั่วประเทศที่ผ่านการบ่มเพาะ พัฒนา ภายใต้โครงการต่างๆ ของ สสว. มาจำหน่าย อาทิ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up) โดยเน้นเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้ารายย่อย ได้มีโอกาสที่จะมาทดสอบตลาด อาทิ โครงการ Strong & Regular level กลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและสินค้าสอดคล้องกับความต้องการชองตลาด / Turn around กลุ่มที่ได้รับการปรับแผนธุรกิจและเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยเพื่อเสริมสภาพคล่องของธุรกิจ รวมทั้งสินค้าจากวิชาหกิจชุมชนต่างๆ จากทั่วประเทศที่จำหน่ายในร้านประชารัฐสุขใจ Shop ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศ เพื่อเป็นโอกาสทางการตลาดในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ เชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรงจำนวน 300 ร้านค้า ภายใต้ชื่องาน "รวมสุดยอดสินค้าดี เอสเอ็มอีทั่วถิ่นไทย" ระหว่างวันที่ 6 – 27 กันยายน 2560 โดยงานจะจัดเป็น 2 รอบ รอบละ 11 วัน ครั้งละ 150 ร้านค้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและความงาม แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ของใช้ และสินค้าเกษตร และยังมีสินค้าวิสาหกิจชุมชนในแต่ละท้องถิ่น
มาจัดจำหน่ายในร้านประชารัฐสุขใจ Shop และพื้นที่พิเศษ คือ ตลาดร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมตลาดได้ร่วมแบ่งปันน้ำใจโดยอุดหนุนสินค้าจากผู้ประสบอุทกภัย
นอกจากนี้ สสว. ได้จัดโซนสำหรับให้บริการแก่ SME คือ ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (OSS) เพื่อให้บริการคำปรึกษาและรับคำขอสินเชื่อเพื่อSME ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ Micro SME ไม่เกิน 200,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย และเพื่อเป็นการช่วยขยายตลาด E Commerce ผู้ประกอบการสามารถนำผลิตภัณฑ์มา ณ พื้นที่สตูดิโอให้บริการถ่ายภาพสินค้าพร้อมนำขึ้นจำหน่ายบน E - Marketplace นอกจากนี้ ภายในงาน บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ให้บริการแจกคูปองตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมูลค่า 5,000 บาท เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าจากแล็บประชารัฐ ให้สามารถแข่งขันตอบรับกับการเป็นอุตสาหกรรม 4.0
นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม กล่าวถึงจุดเด่นหรือเสน่ห์ของตลาดคลองผดุงกรุงเกษมว่าเป็นตลาดที่เกิดจาการสานพลังประชารัฐ ในการรวมพลังทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ที่ร่วมมือร่วมใจกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกัน เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในเมือง และคนชนบท เนื่องจากเป็นตลาดในที่เปิดโอกาสให้คนกรุงเทพฯ ได้อุดหนุนสินค้าจากเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศโดยตรงในราคายุติธรรม ถือเป็นการช่วยเหลือเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และรวบรวมอรรถรสทุกด้านไว้ในที่เดียว ทั้งในเรื่องของการซื้อสินค้า การเสริมความรู้จากกิจกรรมต่าง ๆ ความสุขจากกิจกรรมดนตรี การแสดง นับเป็นตลาดต้นแบบที่พร้อมขยายผลสู่ชุมชน
ทั้งนี้ การจัดงานตลาดนัดคลองผดุงกรุงเกษม มีหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ได้มีส่วนสนับสนุน อาทิ กรมประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์การจัดงาน กรุงเทพมหานคร สนับสนุนและดูแลเรื่องความสะอาด เป็นต้น และในส่วนของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะสนับสนุนดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย พิธีการ การอำนวยความสะดวก และการประสานสื่อมวลชนเข้ามาร่วมเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การจัดงาน
การจัดงานตลาดนัดคลองผดุงกรุงเกษมข้างทำเนียบรัฐบาล เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2558 ถือเป็นการสร้างการรับรู้และสร้างตราสินค้าแห่งการจดจำในนาม "ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม" ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพฯ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับประชาชน ตลอดจนช่วยขยายธุรกิจให้ก้าวสู่ระดับสากล และยังเป็นเวทีสำหรับหน่วยงานในการถ่ายทอดความรู้สู่การใช้ประโยชน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ