ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะสนับสนุนให้แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2560 - 2564) หรือดิจิทัลไทยแลนด์ สู่เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามนโยบายรัฐบาล โดยปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนไปเร็วมาก ประเทศไทยจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแบบก้าวกระโดดสู่ความเป็นดิจิทัล ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมโดยใช้ดิจิทัลในการขับเคลื่อน โดยการปรับเปลี่ยนสู่ความเป็น
ดิจิทัล เกิดจากการบูรณาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐภาคเอกชนร่วมมือกันภายใต้นโยบาย "SIGMA โดย "S (Security)" จะคอยปกป้อง คุ้มครองเรา ทั้งปัจเจกชน หน่วยงาน / "I (Infrastructure)" โครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ ที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น หมู่บ้านประชารัฐ
"G (Government)" คือการอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจทำงานได้ง่ายขึ้น ประชาชนก็เข้าถึงภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น
"M (Manpower)" หมายถึงกำลังคนที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัล 4.0 และสุดท้ายคือ "A (Application)" ที่มาเปิดโลกธุรกิจ อุตสาหกรรมประเทศไทย โดยมีแอปพลิเคชันเป็นสื่อกลาง ทั้งธุรกิจที่มีอยู่แล้วในตลาด และธุรกิจใหม่ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง มจธ.และ ทีโอที จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับขีดความสามารถ เป็นการสร้างคนไทย 4.0 ที่มีคุณภาพที่มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัล 4.0
รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเป็นมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มุ่งเน้นภารกิจดูงานวิจัยที่มีคุณค่าและมีความหมาย สร้างนวัตกรรมที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศ และการผลิตบัณฑิตที่เก่งและดีมีคุณภาพสู่สังคม ความร่วมมือกับ บมจ.ทีโอที ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศในวันนี้เป็นความ
ร่วมมือที่นำเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งเป็นวาระที่สำคัญในการวางรากฐานของประเทศในระยะยาว โดย มจธ. มีความพร้อมทั้งในส่วนขององค ความรู้และบุคลากรในการสนับสนุนความร่วมมือทางด้านวิชาการ งานวิจัยด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การเรียนการสอนเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจ
Start-upและ Digital Entrepreneur และการแลกเปลี่ยนเรียนรู?กับทีมงานของทีโอที โดยนอกจากนี้ตลอดเวลากว่า 3 ปี? มจธ. มีความชัดเจนและต่อเนื่องในการพัฒนาทักษะและบ่มเพาะผู้ประกอบการระดับนักศึกษาและบุคลากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีศักยภาพพร้อมเติบโตไปเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของสังคม ความร่วมมือดังกล่าว จะสามารถพัฒนานักศึกษาเข้าสู่อุตสาหกรรมนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนเชื่อมโยงการเรียนการสอนงานวิจัยให้พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมบริการดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขยายฐานความร่วมมือและใช้ประโยชน์ Co-working space ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ดร.มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ได้สนับสนุนผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการ และขอบคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีที่ให้ความไว้วางใจ ทีโอที ในการเป็นพันธมิตรร่วมกันโดยการนำศักยภาพของทั้งสององค์กรมาเสริมสร้างเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้เป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการพัฒนานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางวิชาการมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เป็นการกระจายความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลนำประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ ซึ่งความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์ในภาพรวมของประเทศแล้ว ยังมีเป้าหมายเป็นการพัฒนาและเพิ่มความแข็งแกร่งในการให้บริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันให้กับทีโอที เพื่อให้ก้าวสู่ธุรกิจบริการดิจิทัลตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาทุนมนุษย์สู่ดิจิทัล โดยการพัฒนาหลักสูตร สร้างองค์ความรู้ ทั้งในด้านระบบงาน กระบวนการในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ การพัฒนา Software หรือ Application และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงกับตลาด นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพื่อต่อยอดตอบโจทย์กลุ่ม Startup ส่งเสริมให้เกิดการกระจายความเจริญด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมสู่ภูมิภาคในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ รวมถึงการร่วมกันจัดตั้ง co-working space ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการ และแนวทางการประกอบธุรกิจปัจจุบันและอนาคต การสร้าง roadmap งานวิจัยของกลุ่ม Startup เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับชุมชนและประชาชน นอกจากนี้ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ และข้อมูลงานวิจัยระหว่างบุคลากรของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ ทีโอที รวมถึงนักศึกษากลุ่ม Startup ที่มีแนวโน้มที่จะเริ่มกิจการทำธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจสร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาให้กับชุมชนและประชาชน และการจัดหลักสูตรในด้านดิจิทัลร่วมกันเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์