นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า "ข้อมูลล่าสุดปี 2559 ธุรกิจภาคการค้าส่งและค้าปลีกมีมูลค่า GDP SME เท่ากับ 1,596,441 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 78.2%ของ GDP ในภาคธุรกิจ นอกจากนี้ สาขาการค้าส่งและค้าปลีกมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 10.19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล สสว. จึงได้ดำเนินกิจกรรมอบรมผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในยุค 4.0 หรือ "Retail Business 4.0 Conference" ในวันนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกที่มีศักยภาพสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้การดำเนินธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสมาชิกของสภานักธุรกิจอาเซียน – สหรัฐอเมริกา สสว. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอบรมในวันนี้จะสามารถช่วยพัฒนาทักษะในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มธุรกิจภาคการค้าของไทยต่อไป"
นายราฟฟี ฟาฮาร์โด กรรมการผู้จัดการบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย พม่าและลาว กล่าวว่า "พีแอนด์จีตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะในกลุ่มค้าส่ง และค้าปลีก ที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิตอลที่การเติบโต และแข่งขันทางการตลาดสูงมากยิ่งขึ้นซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอบรมครั้งนี้ โดยการร่วมนำเสนอนวัตกรรม และความรู้โดยวิทยาลัยเพื่อความเป็นผู้นำพีแอนด์จีเพื่อช่วยให้คู่ค้าของเราสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ให้เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งหน้าร้าน และการค้าธุรกิจออนไลน์ และเรายังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้จากวิทยากรจากแหล่งอื่นอีกด้วย"
สำหรับโครงการอบรมผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในยุค 4.0 หรือ "Retail Business 4.0 Conference" และ"P&G Leadership College" จัดโดยบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือพีแอนด์จี ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), และหน่วยงานสนับสนุนได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และสภานักธุรกิจสหรัฐอเมริกา - อาเซียน (US – ASEAN Business Council) โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถการแข่งขัน และส่งเสริมความเป็นผู้นำ ให้กลุ่มผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกของไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ได้มีความรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตัลโดยครั้งนี้มีผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สาขาการค้าส่งและค้าปลีก และศูนย์กระจายสินค้า ร่วมเข้าอบรมกว่า 120 คน
มีวิทยากรที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ทางด้านการใช้ดิจิตัลจากหลากหลายองค์กรทั้งจากบริษัทสมาชิกในสภานักธุรกิจอาเซียน – สหรัฐอเมริกา (US – ASEAN Business Council) ได้แก่ P&G, PayPal, Uber และจากองค์กรอื่นได้แก่ องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาผ่าน ASEAN Connectivity through Trade and Investment project หรือ US-ACTI, ไปรษณีย์ไทย, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, จิฟฟี่ รีเทล, T2Pและ บริษัท 24 Shopping
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "การจัดอบรมในครั้งนี้นับเป็นการบูรณาการการทำงานภาครัฐเอกชนที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ นำไปสู่การต่อยอดของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยสามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้เป็นอย่างดี"
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า "ทางสมาคมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งฝ่ายภาครัฐ และเอกชนให้ความสำคัญต่อกลุ่มธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ที่ถือเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคหลังที่มีการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี ก็ยิ่งจะทำให้มีผู้สนใจเข้ามาทำธุรกิจการค้ามากขึ้น ซึ่งเราคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความเข้าตลาดยุคดิจิตัล และสามารถวางแผนดำเนินธุรกิจให้ก้าวทันยุคประเทศไทย 4.0 ที่กำลังมาถึงได้ดียิ่งขึ้น"
นางกรรณิการ์ จรัสอุไรสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "พีแอนด์จีมีพันธกิจในการสนับสนุนนโยบาย"ประชารัฐ" ของรัฐบาลโดยการช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยใช้ประโยชน์ของการนำนวัตกรรมดิจิตัลใหม่ๆมาช่วยบริหารจัดการการส่งเสริมตลาด, วิธีการจัดการที่ดี สำหรับลูกค้าออนไลน์ และเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จและเข้าถึงบริการด้าออนไลน์จากวิทยากรมืออาชีพ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการสัมมนาในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ และนำองค์ความรู้ที่ได้นำไปปรับใช้ให้เกิดการเติบโตของธุรกิจได้มากขึ้น"
การอบรมสัมมนาในหัวข้อ "Retail Business 4.0 Conference" และ "P&G Leadership College"จัดขึ้นทั้งหมด 2 วัน ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2560 ณ ห้องจิตรลดา 3 ชั้น 2 โรงแรมแมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 กรุงเทพมหานคร หัวข้อสัมมนาครั้งนี้แบ่งออกเป็น 5 หัวข้อหลักก็คือ(1) โอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในสาขาค้าส่งค้าปลีกของไทยในยุค 4.0 (2) รูปแบบของเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือ ในการบริหารร้านค้าปลีกยุคใหม่ (3) วิธีการจัดการที่ดี สำหรับผู้บริโภคออนไลน์ การบริการลูกค้า และการค้าปลีกใน "P&G Leadership College" (4) เรื่องราวและประสบการณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการขายปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Retailing), และ(5) ความสำเร็จในการขยายธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia , Laos , Myanmar , Vietnam)"
ซึ่งนอกเหนือจากงานอบรมสัมมนาครั้งนี้แล้ว ผู้ที่สนใจยังสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของกลุ่มสถาบัน ASEAN SME Academy ที่มีการฝึกอบรม และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านทาง www.asean-sme-academy.org
ข้อมูลมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม สาขาการค้าส่ง ค้าปลีก
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. รายงานว่า ปี 2559 มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (หรือ GDP SME) ของไทยมีมูลค่ารวม 6,061,143 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 42.2 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมทั้งหมดในประเทศ โดยมีอัตราขยายตัวร้อยละ 4.8 โดยสาขาการค้าส่งและค้าปลีกมีมูลค่าGDP เท่ากับ 1,596,441 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (GDP SME) มีอัตราขยายตัวร้อยละ 10 จากปีที่แล้ว และหากดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี (เทียบปี พ.ศ. 2555) จะเห็นว่ามีอัตราขยายตัวของมูลค่า GDP ถึงร้อยละ 52 ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตัล จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี
เกี่ยวกับพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล
พีแอนด์จีเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอุปโภค และบริโภคที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในมาตรฐานคุณภาพที่ดี โดยพีแอนด์จีมีแบรนด์สินค้าชั้นนำในเครือทั้ง ออลเวย์, แอมบิเพอร์, เอเรียล, เบาวท์ตี, ชาร์มิน,เครส, ดาวน์, ดาวน์นี, แฟรี, แฟบรีส,เกนน์, ยิลเลตต์, เฮด แอนด์ โชว์เดอร์, ลีเนอร์, โอเลย์, ออรัล-บี, แพมเพอร์ส, แพนทีน, เอสเค-ทู, ไทด์, วิคส์, และวิสเปอร์ ซึ่งมีโครงข่ายของบริษัทอยู่กว่า 70 ประเทศทั่วโลก สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของพีแอนด์จีได้ที่ http://www.pg.com