บางส่วนจาก หนังสือ Thailand RESET พลิกมุมคิดเศรษฐกิจไทย เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง "หลายสิบปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร พรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งชั่วคราวจะตั้งหน้าตั้งตา รอคอยการเลือกตั้งอย่างใจจดใจจ่อ แต่ในการเลือกตั้งซึ่งจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะพรรคการเมืองจะถูกท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน นักวิชาการชี้ให้เห็นว่า การปฏิวัติปี 2557 นั้นมีข้อแตกต่างจากการปฏิวัติในอดีตมาก เพราะนอกจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศมานานกว่า 3 ปีแล้ว คสช.ยังมีชุดความคิดของตนเอง และได้วางรูปแบบพิมพ์เขียวสำหรับอนาคตประเทศให้เป็นทางเลือกบางอย่างแก่ประชาชนอีกด้วย ซึ่งนักวิชากการเรียกโมเดลนี้ว่า รัฐราชการ และกล่าวว่า จุดนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญกับการเมืองไทย ประกอบกับทุกวันนี้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนว่าประสิทธิภาพของนโยบายสาธารณะที่ผ่านมาหลายสิบปี ยังไม่ทำให้มีการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมและทั่วถึง ปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะในห้วงเวลาดังกล่าว ได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศทั้ง 2 พรรค รวมถึงในบางช่วงเวลาก็มีรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งใช้แนวทางการบริหารที่เน้นระบบราชการมากกว่าพรรคการเมือง ได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ แต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำมิได้เล็กลง ตรงกันข้ามดูเหมือนจะขยายหนักมากขึ้น"
ผมจึงได้เขียนหนังสือ Thailand RESET พลิกมุมคิดเศรษฐกิจไทย เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เล่มนี้ขึ้น โดยยึดกรอบเศรษฐกิจพอเพียงประกอบกับการมองพลวัตโลก ตั้งโจทย์ที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยยกประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาวิถีชุมชนเกษตรกร การปรับปรุงเรื่องการศึกษา การป้องปรามการทุจริต และโจทย์ที่จะทำให้ประชาชนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันมากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงในระบบเงิน ด้วยแนวคิดใหม่ในเรื่องนโยบายภาษีอากร ด้วยการปฏิรูปการถือครองที่ดิน ฯลฯ เพื่อปูพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหาร เศรษฐกิจ ที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำอย่างไรเพื่อให้สังคมไทยเดินหน้า และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน
ผมหวังว่าผู้อ่านที่เห็นด้วยกับหลักการทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งจากภายใน จะช่วยกันนำข้อคิดเหล่านี้ไปถกแถลง หรือใช้ หรือดัดแปลง เพื่อประกอบการทำงานสาธารณะของท่านในทุก ๆ ด้าน
หนังสือเล่มนี้จะตอบคำถามว่าทำอย่างไรให้สังคมไทยเดินไปข้างหน้า ด้วยการตั้งโจทย์บริหารเศรษฐกิจ ที่เน้นวิธีเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ก้าวข้ามตัวบุคคล – ก้าวพ้นสีเสื้อ – ก้าวเพื่อประชาชน ร่วมกันทำสังคมไทยให้เดินหน้า
ก่อนการเลือกตั้งในปี 2561 สังคมมีโอกาสที่จะร่วมกันตั้งโจทย์ที่เร่งด่วน
หาคำตอบและทางเลือก สำหรับประชาชนทุกคนได้ใน Thailand Reset เล่มนี้!