ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารและสถาบันการเงินไทย 6 แห่งที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ

พฤหัส ๒๑ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๕:๒๖
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารและสถาบันการเงินไทย 6 แห่งที่เป็นบริษัทลูก (subsidiary) ของสถาบันการเงินต่างประเทศ

โดยธนาคารและสถาบันการเงินที่ได้รับการคงอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ มีดังนี้:

- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ BOCT

- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ICBCT

- บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด หรือ ICBCTL

ในขณะเดียวกันฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) หรือ EB ที่ 'AA+(tha)' บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YSTH ที่ 'AA(tha)' และบริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS ที่ 'AA-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสำหรับทั้งสามบริษัท

สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตภายในประเทศของทั้ง 6 บริษัท สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าบริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากในการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support)ในกรณีที่มีความจำเป็นจากบริษัทแม่ของแต่ละบริษัท ซึ่งได้แก่ Bank of China (Hong Kong) Ltd. (BOCHK; A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) Industrial and Commercial Bank of China (ICBC; A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) Yuanta Financial Holding (YFHC; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ACOM CO., LTD. (ACOM; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และ Nomura Holdings Inc. (NH; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ bbb) ฟิทช์มองว่าสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่งเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อบริษัทแม่ เนื่องจากการที่บริษัทแม่มีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับสูง มีอำนาจควบคุมการบริหารงานในบริษัทลูกและมีการเชื่อมโยงการดำเนินงานอย่างสอดคล้องกันกับกลุ่มในระดับสูง (integration) มีการใช้ชื่อและสัญญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับบริษัทแม่ รวมทั้งการสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต

อันดับเครดิตภายในประเทศของ CNS พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ NH แทนที่จะเป็นอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ NH เนื่องจากฟิทช์ไม่ได้รวมการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานปรกติจากรัฐบาลญี่ปุ่น (A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถีรภาพ) โดยฟิทช์ไม่คาดว่าการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระดับบริษัทแม่ (ซึ่งคือ NH) จะครอบคลุมมาถึง CNS ซึ่งเป็นบริษัทลูก ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศของ CNS จึงมีความสัมพันธ์กับอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงินของ NH

อันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCTL นั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่า ICBCTL เป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของ ICBCT โดย ICBCTL ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ ICBCT ธุรกิจเช่าซื้อมีสัดส่วนสินเชื่อคิดเป็น 29% ของสินเชื่อรวมของ ICBCT และมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 34% ของรายได้รวมในปี 2559

อันดับเครดิตของตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ ICBCTL และ EB ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของแต่ละบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์

อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นของ CNS อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ CNS เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน

อันดับเครดิตหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL ซึ่งค้ำประกันโดย ICBCT พิจารณาจากการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ในการชำระหนี้ที่ค้างชำระภายใต้หุ้นกู้ โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT, ICBCT และ ICBCTL เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม อย่างไรก็ตามฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT ICBCT และ ICBCTL ในกรณีที่อันดับเครดิตของบริษัทแม่ถูกปรับลดอันดับ

อันดับเครดิตภายในประเทศของ EB YSTH และ CNS อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตหรือฐานะทางการเงินของบริษัทแม่ของแต่ละบริษัท

อันดับเครดิตของบริษัทลูกในประเทศไทยของสถาบันการเงินต่างประเทศทั้ง 6 แห่ง อาจได้รับผลกระทบหากมีการเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูก ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่บริษัทแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญหรือมีระดับการให้การสนับสนุนทางการเงินที่ลดลง เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ถึงการลดลงของโอกาสในการให้การสนับสนุน และส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีโอกาสที่อันดับเครดิตจะได้รับการปรับเพิ่ม อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL อาจได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตของ ICBCT

รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:

BOCT:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

ICBCT:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

ICBCTL:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกันโดย ICBCT คงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'AAA(tha)'

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

EB:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AA+(tha)'

YSTH:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

CNS:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA-(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

-อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ