ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัด ปทุมธานี พร้อมด้วย รศ.ดร.สมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ร่วมเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยมีนักวิ่งซึ่งมีทั้งศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยลงกรณ์ฯ ตลอดจนนักวิ่งทั่วไปจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมแข่งขันรวมกว่า 4,000 คน โดยระหว่างเส้นทางการวิ่งได้มีการนำ "ตุ่มสามโคก" เครื่องปั้นดินเผาที่มีศิลปะสวยงามที่สืบทอดภูมิปัญญาชาวมอญมาตั้งแต่สมัยโบราณ มาตั้งไว้บริเวณจุดให้น้ำ เพื่อบรรจุน้ำให้เหล่านักวิ่งได้ดื่มด่ำซึมซับบรรยากาศ รวมถึงพระสงฆ์ที่มาคอยประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลกับนักวิ่งเมื่อวิ่งผ่านหน้าวัด
ผลปรากฎว่าผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในประเภทโอเวอร์ออลระยะ 10 กม. พร้อมคว้าถ้วยเกียรติจากองคมนตรี พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ไปครอง คือ ฝ่ายชายได้แก่ ร.ต.ท ปฎิการ เพรศรีชา อดีตนักกรีฑาทีมชาติไทย เข้าเส้นชัย เป็นคนแรก ด้วยเวลา 34.04 นาที และฝ่ายหญิงได้แก่ ศยามล ผูกมิตร เข้าเส้นชัย เป็นคนแรก ด้วยเวลา 46.36 นาที
ภายหลังการแข่งขัน รศ.ดร.สมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า "กิจกรรมเดินวิ่งวไลยอลงกรณ์ รัน 2017 ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี มีนักวิ่งให้ความสนใจจำนวนมากแม้จะเป็นปีแรกที่จัดการแข่งขัน นับเป็นการสนองนโยบายการเสริมสร้างสุขภาพของทางรัฐบาลที่รณรงค์ให้ประชาชนได้ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างแท้จริง รวมถึงขานรับนโยบายของ สสส. ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสให้คนไทยทุกช่วงวัยให้หันมาใส่ใจสุขภาพ และให้เห็นผลดีของการออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดภาวะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) ที่สำคัญยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของประชาชนในจังหวัดโดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ เป็นศูนย์กลาง อันจะเป็นมาตรฐานต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่งทั่วประเทศในการสร้างความสามัคคีภายในสถาบันและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพผ่านการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ยังได้รับความประทับใจและซึมซับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปทุมธานี ไม่ว่าจะเป็นการได้ชิมมอาหารพื้นถิ่นชาติพันธุ์มอญ อาทิ เปิงตาว กวาญย์ฮะกอ ข้าวแช่ปทุม เมี่ยงกลีบบัว ชาเกสรบัว ข้าวห่อใบบัว น้ำสมุนไพรรากบัว ฯลฯ พร้อมชมการแสดงพื้นบ้าน และซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านค้าชุมชนในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน เชื่อว่ากิจกรรมที่มีประโยชน์มากมายที่เกิดขึ้นในปีนี้จะเป็นจุดเริ่มในการต่อยอดจัดการแข่งขันเป็นประจำอย่างยั่งยืนต่อเนื่องไปทุกปี"
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมการงาน เดิน-วิ่ง "วไลยอลงกรณ์ รัน 2017" ได้พาเพื่อนและครอบครัวไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญและทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่มากมายภายใน จ.ปทุมธานี อาทิ เข้าสักการะรูปปั้น "หลวงพ่อโต" สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, วัดหงษ์ปทุมาวาส วัดมอญโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช, วัดเจดีย์ทอง วัดมอญสมัยอยุธยาที่มีอายุมากกว่า 160 ปี, วัดเจดีย์หอย ชมเจดีย์ที่สร้างขึ้นจากเปลือกหอยนางรม, ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า, ท้องฟ้าจำลอง, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ ,พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ ปทุมธานี ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก "วไลยอลงกรณ์ รัน Valaya Alongkorn Run" www.facebook.com/valayaalongkornrun และwww.runlah.com