“ฟรีสแลนด์คัมพิน่า - โฟร์โมสต์” ประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่

จันทร์ ๒๕ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๓:๐๗
เผยกลยุทธ์ธุรกิจสู่ปี 2020 ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มต่อเนื่อง พร้อมชี้แนวโน้มอุตสาหกรรมนมที่เอเชียครองตำแหน่งผู้ขับเคลื่อนให้ตลาดนมทั่วโลกเติบโต

บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม "โฟร์โมสต์" ประกาศแต่งตั้งนายวิภาส ปวโรจน์กิจ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ เผยแนวโน้มอุตสาหกรรมนมในเอเชียมาแรง ครองความเป็นผู้นำตลาดและเป็นผู้ผลักดันให้ตลาดนมทั่วโลกเติบโต ขณะที่เทรนด์พฤติกรรมการบริโภคนมของชาวเอเชีย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7%ต่อปีหรือเท่ากับ 66 ลิตร/คน/ปี ล่าสุดเผยแผนกลยุทธ์ธุรกิจสู่ปี 2020 มุ่งสานต่อวิสัยทัศน์ในการส่งมอบนมโคคุณภาพ 100% ไปยังผู้บริโภคชาวไทย และสนับสนุนเกษตรกรโคนมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและ ผลิตน้ำนมโคที่มีคุณภาพ เตรียมงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังผลิต ตั้งเป้าเติบโต ปีละ 5% และครองตำแหน่งผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มอย่างต่อเนื่อง

นายวิภาส ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม "โฟร์โมสต์" เปิดเผยว่า "ภาพรวมพฤติกรรมการบริโภคนมของผู้บริโภคทั่วโลกพบว่ามีอัตราการบริโภคนมเฉลี่ยอยู่ที่ 113 ลิตร/คน/ปี โดยตลาดในภูมิภาคเอเชียกำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องด้วยอัตราการบริโภคที่มีการเติบโตเฉลี่ย 3.7% ต่อปีซึ่งสูงที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชียประเทศที่มีการบริโภคนมเติบโตสูงที่สุด 2 อันดับแรกคือ จีนเติบโตปีละ 3.8% และอินเดียเติบโตปีละ 3.5% ในส่วนของประเทศไทยมีการบริโภคนมเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ลิตร/คน/ปี"

เนื่องด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียส่งผลให้ในปัจจุบันชาวเอเชียมีกำลังซื้อที่มากขึ้น ประกอบกับความตระหนักและการรับรู้ถึงประโยชน์ของนมโคมีมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ทำให้ชาวเอเชียหันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากกว่าแต่ก่อน จึงทำให้แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมนมในภูมิภาคนี้มีอัตราการเติบโตกว่า 5% ต่อปี ซึ่งแสดงถึงการเติบโตของ ธุรกิจที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดนมฝั่งยุโรปที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง ประกอบกับข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (United Nation) ที่แสดงให้เห็นว่า กว่าครึ่งของประชากรโลกเป็นชาวเอเชีย (4,500 ล้านคน จากจำนวนประชากรโลก 7,500 ล้านคน) โดยจีนและอินเดีย มีประชากรรวมกว่า 2,700 ล้านคน (1 ใน 3 ของประชากรโลก) จึงถือได้ว่าเอเชียเป็นภูมิภาคที่น่าลงทุนและเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ถึงปริมาณการผลิตน้ำนมทั่วโลกในปี 2025 ว่าจะมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในเอเชียนำโดยอินเดียจะมีการผลิตน้ำนมโคที่มีการเติบโตสูงถึง 50%

นายวิภาส กล่าวว่า "สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจสู่ปี 2563 (ค.ศ. 2020) นั้น บริษัทฯ ยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ในการ "ส่งมอบนมโคคุณภาพ 100% ไปยังผู้บริโภค พร้อมสนับสนุนเกษตรกรโคนมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถผลิตน้ำนมโคได้อย่างมีคุณภาพ" ภายใต้แนวคิดหลัก "ให้ธรรมชาติดูแลคุณ" (Nourishing by Nature)3 ประการ ประกอบด้วย 1. การมอบผลิตภัณฑ์นมโคที่มีคุณภาพและสารอาหารครบถ้วนเพื่อผู้บริโภคทั่วโลก(Better nutrition for the world) 2. การพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเกษตรกรโคนม (A good living for our farmers) และ 3. การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนสำหรับคนยุคต่อไป (Now and for generations to come) โดยมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1. เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์และช่องทางการจัดจำหน่าย 2. สร้างการรับรู้ความเป็นแบรนด์ผู้นำในตลาดที่กำลังเติบโต (แถบอินโด-ไชน่า) และ 3.ขยายธุรกิจไปสู่ทวีปเอเชียที่มีศักยภาพสูงอีกทั้งให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาและกลุ่มผู้สูงวัย"

นายวิภาส กล่าวต่อว่า "แผนการลงทุนภายในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ (ปี 2561-2563) บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงานและขยายกำลังการผลิตให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมความแกร่งให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อสนับสนุนเกษตรกรโคนมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นและการผลิตน้ำนมโคอย่างมีคุณภาพ ภายใต้หลักการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน 3 ปี ประกอบด้วย 1. เรามุ่งพัฒนาคุณภาพในทุกองค์ประกอบทั้งห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบของ น้ำนมโค นั่นคือ เกษตรกรโคนม ศูนย์รวบรวมน้ำนม การผลิตที่มีมาตรฐาน ตลอดจนการกระจายสินค้าในแต่ละภูมิภาค เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์นมคุณภาพถึงผู้บริโภค 2. การเติบโตทางธุรกิจ เราต้องเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคเพื่อจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคในหลากหลายวัยและโอกาส 3. ผลกำไรที่ได้เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนไม่เพียงแค่บริษัท แต่รวมไปถึงอุตสาหกรรมโคนมไทย เกษตรกรโคนมไทย ร้านค้า และผู้บริโภคได้มีผลิตภัณฑ์ที่ดีในการบริโภค ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้ในประเทศจะเติบโตขึ้น 5% ในทุกปี และรักษาความเป็นผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มอย่างต่อเนื่อง"

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มยูเอชที กลุ่มผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และโยเกิร์ต กลุ่มผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็ก (โฟร์โมสต์โอเมก้า) กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมรสชาติได้แก่ นมข้นหวาน นมข้นจืด (ฟอลคอน โพรเฟสชัลแนล) โดยทุกผลิตภัณฑ์ของโฟร์โมสต์ผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ทั้งนี้ ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของ บริษัทฯ ปัจจุบันมีครอบคลุมทั่วประเทศ แบ่งเป็นร้านค้าทั่วไป มีสัดส่วน 50% และโมเดิร์นเทรด สัดส่วน 50%

ในส่วนของโรงงานผลิตของบริษัทฯ มี 2 แห่ง คือ โรงงานสำโรง จ.สมุทรปราการ ผลิตนมยูเอชที นมข้น และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม มีกำลังผลิต 360,000 ตันต่อปี และโรงงานหลักสี่ จ.กรุงเทพมหานคร ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ตแบบถ้วยและพร้อมดื่ม มีกำลังผลิต 87,000 ตัน ต่อปี โดยรวมกำลังผลิตทั้งสองโรงงานจะมีสูงถึง 447,000ตันต่อปี

"แผนการตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกตลาดเต็มกำลังภายใต้งบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการทำตลาดในผลิตภัณฑ์กลุ่มหลัก คือ ผลิตภัณฑ์นมโคยูเอชที 100% โดยตอกย้ำถึงคุณภาพและมาตรฐานของนมโฟร์โมสต์ ส่วนผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กจะมุ่งเน้นการสื่อสารไปยังผู้ปกครองซึ่งมีอิทธิพลในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดครบทุกช่องทางเพื่อขยายฐานผู้บริโภคและกระตุ้นผู้บริโภคชาวไทยให้หันมาดื่มนมมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่คนไทยทุกกลุ่ม และสำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้ในประเทศไทยเติบโตที่ 5% และยอดส่งออกเติบโต 20% ในขณะที่คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนมในประเทศไทยจะมีมูลค่าประมาณ 61,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2560" นายวิภาส กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version