“คอตตอน ยูเอสเอ” ผนึกกำลัง “ซีเอ็มจี” รุกตลาดยีนส์ไตรมาสสุดท้าย เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ร่วมกับสามแบรนด์ดัง “ลี” “ลี คูเปอร์” และ “แรงเลอร์” ชูจุดเด่นผสานเทคโนโลยีเสื้อผ้าระดับโลกบนผ้าฝ้าย ตั้งเป้าด

พุธ ๒๗ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๗:๐๔
คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USA™) เดินหน้าตอกย้ำคุณภาพของเส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาในฐานะ "ฝ้ายที่ทั่วโลกไว้วางใจ" ล่าสุดจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ "เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป" หรือซีเอ็มจี (CMG) รุกทำตลาดยีนส์ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ตอบรับกระแสความนิยมในผลิตภัณฑ์ยีนส์ที่ไม่เคยตกยุค เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ "CMG x Cotton Incorporated x COTTON USA™" ร่วมกับสามแบรนด์ไลเซนซีชื่อดัง "ลี" "ลี คูเปอร์" และ "แรงเลอร์" พร้อมชูจุดเด่นการนำเทคโนโลยีเสื้อผ้าระดับโลกมาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในเสื้อยืด และกางเกงยีนส์ซึ่งเป็นผ้าฝ้าย เอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าเดนิม พร้อมจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบครบวงจร ภายใต้งบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท ตั้งเป้า ยอดขายสินค้าคอลเลคชั่นนี้เติบโตขึ้น 5% จากคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์

คุณไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ในกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่า "ฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาได้รับการยอมรับจากทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในฐานะ "ฝ้ายที่ทั่วโลกไว้วางใจ" เพราะฝ้ายจากสหรัฐอเมริกามีคุณภาพที่เสมอต้นเสมอปลาย มีความยั่งยืน และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนจากเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายที่ปลูกด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการเพาะปลูก ทำให้ฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ในบ้านหลากประเภท โดย "ผลิตภัณฑ์ยีนส์" เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผลิตจากฝ้าย 100% ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของผลสำรวจ Global Lifestyle Monitor ในปี 2559 ระบุว่าผู้บริโภคคนไทยกว่า 79% มองว่า ยีนส์เหมาะสมที่จะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น และกว่า 41% ชื่นชอบกางเกงยีนส์ และเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้ายีนส์มากกว่าเสื้อผ้าแบบอื่น นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคคนไทยมีไอเท็มยีนส์เฉลี่ยคนละไม่ต่ำกว่า 10 ตัว และมีการสวมใส่บ่อยถึง 98% ซึ่งจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นยีนส์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย"

และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของเส้นใยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา และตอบรับกระแสความนิยมผลิตภัณฑ์ยีนส์ในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย คอตตอน ยูเอสเอจึงได้ร่วมมือกับบริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจมากว่า 10 ปี ที่ประกอบไปด้วยสามแบรนด์ ไลเซนซีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยีนส์ ได้แก่ ลี (Lee) ลี คูเปอร์ (Lee Cooper) และแรงเลอร์ (Wrangler) เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษ "CMG x Cotton Incorporated x COTTON USA™"โดยมีการนำเทคโนโลยีบนผ้าฝ้ายจากคอตตอน อินคอร์ปอเรท องค์กรที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมบนผ้าฝ้าย มาประยุกต์เข้ากับคอลเลคชั่นดังกล่าว เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ยีนส์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นำโดย แบรนด์ลี ใช้เทคโนโลยีวิคกิ้ง วินโดวส์ (Wicking Windows™) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความชื้นได้ดีขึ้นถึง 1,400% และลดความเหนียวติดตัวได้ถึง 50% จากผ้าปกติและเทคโนโลยี ทรานส์ดราย(TransDRY™) เป็นนวัตกรรมที่มีการ จดสิทธิบัตร โดยเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้กางเกงยีนส์แห้งเร็วกว่ากางเกงยีนส์ทั่วไปถึง 33% แบรนด์ลี คูเปอร์ ใช้เทคโนโลยี ทัฟ คอตตอน (TOUGH COTTON™) ที่ป้องกันรอยขีดข่วนและการถลอกจากการเสียดสีและยังคงสภาพสียีนส์ได้นานขึ้น ช่วยเพิ่มความทนทานและสวมใส่สบายให้กับกางเกงยีนส์ และ แบรนด์แรงเลอร์ (Wrangler) ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมยีนส์สะท้อนน้ำ สเตย์ ดราย (Stay Dry) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากนวัตกรรมสตอร์ม เดนิม (STORM DENIM™) มีคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำทุกประเภท ทั้งฝน ละอองน้ำจากการเดินทาง(Water Repellent) ซึ่งน้ำไม่สามารถซึมผ่านกางเกงได้ ทำให้ไม่เปียก และสวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และยังคงสามารถซักได้เหมือนปกติ

"ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือของไลเซนซีตั้งแต่กลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยไลเซนซีกลุ่มโรงงานเป็นผู้พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีบนเนื้อผ้าจากคอตตอน อินคอร์ปอเรทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคุณสมบัติของผ้าฝ้ายรวมถึงผ้าเดนิมให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ บริษัท แอตแลนติก มิลล์ ผู้ผลิตผ้ายีนส์แนวหน้าของประเทศไทย เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี ทรานส์ดราย บริษัท ไทยสินดี เทรดดิ้ง ผู้ผลิตผ้ายืดเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี วิคกิ้ง วินโดวส์ และบริษัทตะวันการฟอกพัฒนาเทคโนโลยี ทัฟ คอตตอน และสเตย์?ดราย โดย ไลเซนซีกลุ่มแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านเสื้อผ้ายีนส์ ได้แก่ ลี ลี คูเปอร์ และแรงเลอร์ เป็นผู้นำผ้ายีนส์ที่ผสานเทคโนโลยีดังกล่าวมาออกแบบ และตัดเย็บให้เป็นคอลเลคชั่นพิเศษนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และทำให้สินค้าดังกล่าวมีความเป็นแฟชั่นและฟังก์ชั่นมากขึ้น" คุณไกรภพ กล่าวทิ้งท้าย

คุณนันทพร ประเสริฐบดินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แบรนด์ลี ในกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด หรือซีเอ็มจี กล่าวว่า "ในฐานะแบรนด์ที่วางกลยุทธ์หลักมุ่งสู่การเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมเครื่องแต่งกาย ทำให้ "แบรนด์ลี" ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านเครื่องแต่งกายให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสร้างความแตกต่างท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดยีนส์ด้วยการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยีนส์ "ลี" ในตู้คีออสก์ หรือเครื่องขายเสื้อผ้าอัตโนมัติเป็นครั้งแรกในไทย และการเปิดตัวเสื้อยืดที-เชิ้ตเทคโนโลยีวิคกิ้ง วินโดวส์(Wicking Windows™) นวัตกรรมบนผ้าฝ้ายสำหรับ คอลเลคชั่น ลี เออร์เบิน ไรเดอร์ส (Lee Urban Riders) ในปีที่ผ่านมา"

"คอลเลคชั่นพิเศษนี้เป็นการสานต่อคอนเซปท์ "RE/DISCOVERWORKLIFE" ที่คนรุ่นใหม่มองว่าการทำงานในยุคนี้คือการได้ทำในสิ่งที่รักและตนเองใฝ่ฝัน (Passion) ในสไตล์ Work & Play ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบันที่มีวิถีในการทำงานเปลี่ยนไป จากที่เคยต้องนั่งอยู่แต่ในออฟฟิศ ก็เริ่มมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือ Co-Working Space คอลเลคชั่นนี้จึงเป็นเสื้อผ้าแนวสปอร์ตแฟชั่นสำหรับหนุ่มๆ ยุคมิลเลนเนียล วัย 25 ปีขึ้นไป ที่ชื่นชอบเสื้อผ้าที่มีความคล่องตัวสำหรับการใส่ไปทำงาน และใส่ไปเที่ยวในชุดเดียวกัน โดยมีคีย์ไอเท็มหลักอย่าง เสื้อยืดที่ใช้เทคโนโลยีวิคกิ้ง วินโดว์ (Wicking Windows™) ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของเสื้อยืดคือช่วยระบายความชื้นได้ดีกว่า แห้งเร็วกว่า ทำให้รู้สึกสบาย และ ลดความเหนียวติดตัวได้ โดยสามารถซื้อได้แล้ววันนี้ในราคา 990 บาท และผลิตภัณฑ์กางเกงยีนส์ที่ได้นำเทคโนโลยี ทรานส์ดราย (TransDRY™) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความชื้นบนผ้าเดนิมได้ดีกว่าและแห้งเร็วกว่าผ้ายีนส์ปกติ และทำให้รู้สึกสบาย และคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ในราคา 1,990 – 2,490 บาท"

คุณสุดาทิพย์ แสงประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แบรนด์ ลี คูเปอร์ และ แรงเลอร์ ในกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด หรือซีเอ็มจี กล่าวว่า "ลี คูเปอร์ เป็นแบรนด์แฟชั่นยีนส์สุดฮิปจากเกาะอังกฤษ มีกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18 - 24 ปี มีแนวคิดล้ำสมัย และไม่ยึดติดอยู่กับกรอบเดิมๆ โดยแนวทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของลี คูเปอร์ทั่วโลกจะถูกสื่อสารภายใต้แนวคิด "เมด ทู บี ดิฟเฟอร์เรนท์ –Made To Be Different" ที่ลี คูเปอร์ต้องการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะเผยความเป็นตัวเองในแบบที่แตกต่าง สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ลี คูเปอร์ยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงแนวคิดดังกล่าว และได้เพิ่มเทคโนโลยีเข้าไปในผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีคีย์ไอเท็มหลัก ได้แก่ "กางเกงยีนส์สกินนี่ทรงเฮนรี่" (Henry) ของสุภาพบุรุษ และ "กางเกงยีนส์เข้ารูปทรงเพิร์ล" (Pearl) ของสุภาพสตรีที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีทัฟ คอตตอน(TOUGH COTTON™) นวัตกรรมยีนส์ป้องกันรอยขีดข่วน ลดการถลอก และทำให้สีคงสภาพได้นานขึ้น เพิ่มความทนทานให้กับกางเกงยีนส์ โดยกางเกงยีนส์คอลเลคชั่นนี้วางจำหน่ายแล้วในราคา 2,190 - 2,390 บาท นอกจากนี้คอลเลคชั่นดังกล่าวยังมีเสื้อเชิ้ตผ้ายีนส์ และเสื้อยืดพิมพ์ลายที่ได้รับเกียรติจาก ฐกฤต ครุธพุ่ม หรือ OCTOBER 29 (ออคโทเบอร์ ทเวนตี้ไนน์) ศิลปินสุดแนวเจ้าของงานศิลปะสไตล์กราฟิตี้ มาร่วมออกแบบลายเสื้อยืดในคอลเลคชั่นดังกล่าวจำนวน 10 ลาย ที่สะท้อนการก้าวข้ามจากขนบแบบเดิมๆ ตามแบบฉบับของลี คูเปอร์ โดยเสื้อยืดจะจำหน่ายในราคา 990 บาท"

"สำหรับแรงเลอร์ แบรนด์เครื่องแต่งกายยีนส์สัญชาติอเมริกัน ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายของแรงเลอร์ คือ กลุ่มผู้ชาย 70% ผู้หญิง 30% ที่มีไลฟ์สไตล์รักอิสระ ชอบการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ โดยทางแบรนด์ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดไว้สองอย่าง ได้แก่ กลยุทธ์แรกจะเน้นขยายฐานกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้กว้างขึ้น อาทิ การจัดแคมเปญ 'แรงเลอร์ ทรู วันเดอเรอร์' (Wrangler True Wanderer)จากแคมเปญดังกล่าวทำให้แบรนด์สามารถขยายฐานของลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มไบค์เกอร์ และผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางให้รู้จักกับแบรนด์ และเกิดการทดลองสินค้าของแรงเลอร์ได้มากยิ่งขึ้น

และสำหรับกลยุทธ์ที่สอง แรงเลอร์ ยังคงมุ่งเน้นสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง เราจึงได้สร้างสรรค์เครื่องแต่งกายยีนส์ ภายใต้ชื่อกลุ่มสินค้า "เดนิม เพอร์ฟอร์แมนซ์"(Denim Performance) ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะกับการเดินทางในทุกรูปแบบ สินค้าในคอลเลคชั่นพิเศษนี้จึงมาพร้อมกับนวัตกรรมยีนส์สะท้อนน้ำ สเตย์ ดราย (Stay Dry) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากนวัตกรรม สตอร์ม เดนิม (STORM DENIM™) มอบคุณสมบัติในการสะท้อนน้ำ โดยน้ำจะไม่สามารถซึมผ่านกางเกงยีนส์ได้ ทำให้ผ้าด้านในแห้ง จึงเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่พร้อมลุยได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเปียก และสวมใส่สบาย เพราะยังคงคุณสมบัติการระบายอากาศได้ดีของผ้าฝ้ายไว้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับสไตล์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์ และโทนสีเทา สีดำ และความทนทานตามแบบฉบับกางเกงยีนส์ของแรงเลอร์ นำเสนอในคีย์ไอเท็มหลักอย่างกางเกงยีนส์ทรงสลิมอย่างสเปนเซอร์ (Spencer) โดยจะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 1,990 – 3,290 บาท นอกจากนี้ยังมีกางเกงยีนส์สกินนี่ทรงใหม่อย่างไบรซัน (Bryson) สำหรับสุภาพบุรุษ? กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่สำหรับสุภาพสตรีอย่าง อเล็ค (ALEC) ชุดเอี๊ยมทรงคลาสสิค ไอเท็ม must-have อย่างเสื้อเชิ้ตยีนส์ และเสื้อยืดทั้งแขนสั้นและแขนยาว ที่ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 890 – 3,290 บาท"

"สำหรับงบการตลาดในการเปิดตัวคอลเลคชั่นนี้ คอตตอน ยูเอสเอ และซีเอ็มจีใช้งบประมาณรวมกว่า 60 ล้านบาท เพื่อทำการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการโปรโมทผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศที่มีกว่า 200 แห่ง รวมถึงสื่อออนไลน์ และช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่ายอดขายคอลเลคชั่นใหม่นี้จะเติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับ คอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์ ในขณะที่ภาพรวมตลาดสินค้ายีนส์ในประเทศไทยในปัจจุบันมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เนื่องจากปริมาณความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการสวมใส่กางเกงยีนส์ จึงทำให้มีแบรนด์เกิดขึ้นในตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นแบรนด์ไทยและจากต่างประเทศ ในส่วนของแบรนด์ "ลี" "ลี คูเปอร์" และ "แรงเลอร์" นับเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีส้ำสมัยไปสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง" คุณสุดาทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version