หุ้นไทยไตรมาส 4/60 ไปต่อ เดินหน้าแตะ 1700 จุด ราคา laggard หุ้นในภูมิภาค- Fund Flow ยังไหลเข้า

พุธ ๒๗ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๗:๑๗
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัสมองตลาดหุ้นไทยไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ยังสดใส SET Index มีแนวโน้มปรับขึ้นแตะระดับ 1700 จุด โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาหุ้นไทยยัง laggard หุ้นในภูมิภาค ด้วย PE ต่ำราว 15-16 เท่า ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนากลับมาฟื้นตัว หนุนกระแส Fund Flow ยังไหลเข้าลงทุนในเอเชีย

คุณภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนนี้ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขี้นแตะระดับ 1700 จุดได้ และในระยะ 12 เดือนข้างหน้า เป้าหมายดัชนีฯ อยู่ที่ 1766 จุด โดยมองภาพรวมตลาดหุ้นไทยสดใสขึ้น จึงแนะให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเป็น 60% ของพอร์ตจากเดิม 50% เน้นหุ้นที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเติบโตดี และราคายังปรับขึ้นไม่มาก เพราะจะฟื้นตัวได้ดี เมื่อตลาดผ่านการปรับฐานไปแล้ว

"หุ้นอาจมีการพักฐานบ้าง เพราะขึ้นมาค่อนข้างเร็ว เป็นเรื่องปกติ เรามองภาพตลาดจากนี้ไปจนถึงปีหน้าดีขึ้น ช่วง 3 เดือนนี้ น่าจะได้เห็นดัชนีฯแตะ 1700 จุด ปีหน้าก็ยังขยับขึ้นได้อีก เป้าหมายปีหน้าเราทำไว้อยู่ที่ 1766 จุด" คุณภรณี กล่าว

รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย มีทั้งในและต่างประเทศ ในต่างประเทศนั้น มองว่าเศรษฐกิจโลกปี 2560-2561 ยังฟื้นตัวตัวต่อเนื่อง ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา เช่น สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทั้งภาคการผลิตและการบริโภค ตลาดแรงงานมีการจ้างงานเต็มที่ อัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบ 10 ปี ทำให้ปีนี้สหรัฐฯขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้ง และคาดว่าจะขึ้นอีกครั้งปลายปี พร้อมทั้งเตรียมลดขนาดงบดุลลง 50% จากยอดสินทรัพย์ 4.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ยุโรปและและอังกฤษเศรษฐกิจเติบโตเช่นกัน และเป็นประเทศที่คาดว่าจะใช้นโยบายการเงินตึงตัว โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2561 ตามสหรัฐฯ แต่ยุโรปยังมีปัญหาหนี้สาธารณะในบางประเทศ รวมถึงความเสี่ยงว่ายุโรปจะแตกสลาย หากมีบางประเทศจะแยกตัวออกจากยุโรปเหมือนอังกฤษ (Brexit) เช่น อิตาลี ที่จะมีการเลือกตั้งในไตรมาสแรกปีหน้า

สำหรับเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทุกประเทศกลับมาฟื้นตัว จากการส่งออกที่เติบโต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หลักๆ มาจากจีนและอินเดียที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจาก GDP Growth ครึ่งปีแรก ขยายตัวดีกว่าที่ IMF คาดการณ์ ภาพรวมการใช้นโยนบายการเงินในประเทศกำลังพัฒนายังคงผ่อนคลาย แม้มีบางประเทศที่ลดดอกเบี้ยสวนกระแสโลก เช่น รัสเซีย และอินเดีย

คุณภรณี กล่าวถึง เศรษฐกิจไทยว่าในปี 2561 จะขยายตัวดีขึ้นแตะระดับ 4% จากคาด 3.5% ในปีนี้ โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ ภาคส่งออกที่ยังสดใส ควบคู่กับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ ในปี 2561 คาดมีโครงการเปิดประมูลมูลค่าสูงราว 5.5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชนเริ่มเร่งตัวขึ้น เห็นได้จากยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI สิ้นสุดมิ.ย. 2560 สูงถึง 3 แสนล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสแรกที่มีเพียง 6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ 46% ของยอดขอส่งเสริมจาก BOI เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรม S curve และ New S curve ขณะที่พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญอีกฉบับจากทั้งหมด 3 ฉบับ (2 ฉบับแรกผ่านไปแล้ว คือ พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุนฉบับแก้ไขใหม่และ พ.ร.บ. เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ) ขั้นตอนปัจจุบันคือ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา

"พ.ร.บ.EEC ถือเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นต่อเอกชนให้เดินหน้าลงทุนในไทย โดยเฉพาะการซื้อที่ดิน เพื่อลงทุนสร้างโรงงาน น่าจะเห็นได้ปลายปีนี้ ต่อเนื่องไปปีหน้า เราจะได้เห็นการนำเข้าเครื่องจักร ภาพการลงทุนของเอกชนจะชัดเจนในปีหน้า เป็นต้นไป สัดส่วนการลงทุนภาคเอกชนต่อ GDP จะเพิ่มขึ้น จากตอนนี้ที่ต่ำเพียง 18% เทียบกับ 33% ช่วงก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง" รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย ASPS กล่าว

คุณภรณี กล่าวถึง กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า งวดครึ่งปีแรกนี้บจ.มีกำไรรวม 5.13 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของประมาณการทั้งปี 2560 ที่ทำไว้ 9.9 แสนล้านบาท หรือ 101.36 บาทต่อหุ้น เติบโต 7.1% จากปี 2559 โดยในครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะทำกำไรได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ทำให้ทั้งปีนี้กำไรของบจ.น่าจะเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยฯคาด สำหรับปี 2561 คาดกำไรบจ.อยู่ที่ราว 1.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 110.4 บาทต่อหุ้น เติบโต 8.9% จากปีนี้

นอกเหนือจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และกำไรของบจ.จะหนุนตลาดหุ้นไทยแล้ว ราคาหุ้น (valuation) ของหุ้นไทยยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น กล่าวคือ ผลตอบแทนของหุ้นไทยปีนี้ยัง underperform กว่าที่อื่นๆ และหากมองไปถึง 2561 พบว่าเอเชียยังน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว โดยคาดหุ้นไทย มี EPS Growth ราว 8.9% และมีโอกาสเติบโตมากกว่านี้หาก GDP Growth เกิน 4% ส่งผลให้ Expected P/E ปี 2561 ของตลาดหุ้นไทยลดเหลือ 15 เท่า จาก 16.4 เท่าในปี 2560 ทำให้ดึงดูด fund flow จากนักลงทุนต่างชาติ

โดยปัจจุบัน การถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย (Foreign Holing) อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 14 ปี ล่าสุดเดือน ส.ค. 2560 มียอดปิดโอนทะเบียนเป็นชื่อนักลงทุนต่างชาติ 24.16% และปิดโอนในชื่อ NVDR อีก 6.78% รวมเป็น 30.94% จากที่เคยสูงสุด 36.88% ในช่วงต้นปี 2555 รวมทั้งการซื้อ-ขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติ ที่เป็นมูลค่าตลาดก็ยังไม่สูง เมื่อเทียบกับช่วงปี 2552 จนถึงกลางปี 2556 ที่ต่างชาติซื้อสะสมหุ้นไทย คิดเป็นมูลค่าตลาด 4.7 แสนล้านบาท แต่หลังจากนั้นขายออกต่อเนื่อง จนมูลค่าซื้อสุทธิสะสมเข้าใกล้ศูนย์ช่วงปลายปี 2558

จากนั้นก็เห็นแรงซื้อกลับเข้ามาเพียงเล็กน้อยในปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมียอดซื้อสุทธิสะสมอยู่ที่ราว 1.12 แสนล้านบาท ยังต่ำมากเมื่อเทียบกับ 4.7 แสนล้านบาท สะท้อนว่าการถือครองหุ้นของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะที่ under-owned

คุณภรณี กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโตดี คือ กลุ่มเกษตร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มขนส่ง กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ เลือกหุ้นที่มีประเด็นสนับสนุน เช่น Domestic Play ที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ คือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และ Global Play ที่อิงกับกระแสการฟื้นตัวของโลก คือ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มส่งออก เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO