นายวีระ กล่าวว่า การจัดงานวันถวัลย์ ดัชนี เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้ล่วงลับที่มีต่อวงการศิลปะร่วมสมัยของไทยและนานาชาติ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและ วธ. ในการส่งเสริมพื้นที่ด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ท้องถิ่นและประเทศ โดยคัดเลือกจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องเป็นต้นแบบเมืองศิลปะ เนื่องจากจังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมครบทุกด้าน เช่น มีพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรมและหอศิลป์ที่มีคุณภาพ จำนวนมาก อาทิ วัดร่องขุ่น ไร่เชิญตะวัน พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ขัวศิลปะ เป็นต้น อีกทั้งยังมีศิลปินหลากหลายสาขาที่มีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายอย่างเหนียวแน่น รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนมากทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศหลั่งไหลเดินทางมายังจังหวัดเชียงรายปีละหลายล้านคน
ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัล Thawan Arts and Culture Prize ครั้งที่ 2 Art Prize 6 รายใน 6 สาขา ประกอบด้วย 1.สาขาจิตรกรรม ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2552 2.สาขาประติมากรรม อาจารย์ทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ปูนปั้น) ปี 2554 3.สาขาสถาปัตยกรรม อาจารย์นิธิ สถาปิตานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบร่วมสมัย) ปี 2545 4.สาขาภาพพิมพ์ ศ.เดชา วราชุน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์และสื่อผสม) ปี 2550 5.สาขาวรรณกรรม อาจารย์กิตติศักดิ์ มีสมสืบ (ศักดิ์สิริ มีสมสืบ) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ปี 2559 6.สาขานาฏกรรม แม่ครูบัวเรียว รัตนมณีภรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-ช่างฟ้อน) ปี 2559 และผู้ได้รับรางวัล Thawan Duchanee Arts and Culture Prize ครั้งที่ 1 Culture Prize 2 ราย ได้แก่ 1.ผศ.ลิปิกร มาแก้ว อาจารย์สาขาศิลปกรรม คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ 2.นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย
นายวีระ กล่าวอีกว่า สำหรับพิพิธภัณฑ์บ้านดำเป็นหนึ่งสถานที่สำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านศิลปะให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยได้มีการจัดกิจกรรม Art Market "กาดหมั้วคัวศิลป์" ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน - 3 ตุลาคม 2560 ภายในงานมีกิจกรรม อาทิ การสาธิตการวาดภาพ การจำหน่ายสินค้าด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น ซึ่งงานนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่สนใจด้านศิลปวัฒนธรรมหันกลับมาสร้างประโยชน์ในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งช่วยปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิดและร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนสืบสานศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามไปสู่คนรุ่นหลังต่อไป