ธุรกิจจะทำเพื่อสังคม มูลนิธิสยามกัมมาจล

ศุกร์ ๒๙ กันยายน ๒๐๑๗ ๑๗:๔๒
หากกล่าวถึงเรื่อง "ธุรกิจ" กับการทำ "เพื่อสังคม" อาจไม่น่าเป็นสิ่งที่ไปด้วยกันได้ เพราะฝ่ายหนึ่งคือการทำงานสร้างเงินด้วยธุรกิจเพื่อตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายเป็นการเสียลสละเพื่อส่วนรวม โดยไม่ได้มองว่าตัวเองจะได้กำไรหรือขาดทุน แต่ถ้าเราสามารถสร้างทั้งรายได้แก่ตัวเองและเกิดประโยชน์แก่สังคมด้วยย่อมดีไม่น้อย

นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาทำ "ธุรกิจเพื่อสังคม" หรือ "Social Enterprise (SE)" โมเดลธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขช่องว่างระหว่างโลกการกุศลที่ต้องรอคอยเงินบริจาคจากแหล่งทุน และโลกของธุรกิจที่มีความสามารถในการหารายได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมหรือแก้ปัญหาสังคม ขณะเดียวกันก็สร้างรายได้ให้เจ้าของธุรกิจอยู่รอด มีเงินทุนมาต่อยอดทำสิ่งดีๆ ต่อไป

มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ดำเนินงานพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องเล็งเห็นว่าโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมอาจเป็นคำตอบหนึ่งที่จะยกระดับโครงการของเด็กและเยาวชนที่ทำไว้ให้ก้าวต่อเองได้อย่างยั่งยืน จึงชักชวนเยาวชนจากโครงการพัฒนาองค์กรระดับจังหวัดเพื่อสร้างพลเมือง เพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ (Active Citizen) และโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่เข้าร่วมอบรม "ค่ายพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการสังคม" โดยมีวิทยากรที่เป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่จาก Ma:D Club for Better Society พื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อจัดกิจกรรมที่ให้แรงบันดาลใจแก่สังคม และสร้างความร่วมมือในเครือข่าย SE ให้แข็งแรง

คุณกิฟท์-ปรีห์กมล จันทรนิจกร Found&Managing Director Ma:D Club for Better Society เล่าถึงความคาดหวังของค่ายให้ฟังว่า

"เป้าหมายของค่ายนี้ไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะออกไปเป็นผู้ประกอบการทางสังคมทันที แค่อยากให้รู้ว่าผู้ประกอบการเพื่อสังคมคืออะไร ถ้าจะทำธุรกิจต้องทำอะไรบ้าง มีความสร้างสรรค์อะไรที่สามารถนำมาเป็นเป้าหมายทางธุรกิจเพื่อช่วยพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยมีแบบฝึกหัดให้น้องลองคิดและตอบคำถามสำคัญ ซึ่งจะทำให้น้องรู้ชัดเจนเมื่อจบค่ายว่าการเป็นผู้ประกอบการที่ยั่งยืนในอนาคตมีแนวทางอย่างไร"

หลังการอบรมจบลง คุณกิฟท์บอกว่า น้องๆ แต่ละกลุ่มต้องกลับไปทำการบ้านต่อ เช่น วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนว่ามีมากน้อยแค่ไหน อยู่ในตลาดระดับใด และศึกษาชุมชนเพิ่มว่าโมเดลธุรกิจ SE เหมาะสมกับชุมชนของตัวเองไหม หรืออาจพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของชุมชน โดยจะมีพี่เลี้ยงประจำกลุ่มที่มีความรู้ความสามารถด้านธุรกิจ SE ไปติดตามอย่างต่อเนื่องถึงพื้นที่ชุมชน

พิมพ์-พิมพ์จันทร์ ชอบชื่น โครงการเยาวชนเรียนรู้และอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าไหม บ้านขี้นาค อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้การทำธุรกิจ SEเพราะอยากทำให้ผ้าไหมของบ้านเกิดเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วยประยุกต์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เล่าว่า

"ตอนแรกเราไม่รู้หรอกว่าธุรกิจเพื่อสังคมเป็นอย่างไร พอมาแล้วถึงได้รู้ว่ามีแบบนี้ด้วย ทำให้ได้เปิดมุมมองมากขึ้นว่าควรทำไปทางไหน จากที่คิดว่าจะทำผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม แต่คำนวณต้นทุนแล้วดูเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการทอผ้าไหมผืนหนึ่งมีต้นทุนสูง พี่เลี้ยงของกลุ่มเลยแนะนำว่าควรเปลี่ยนไปทำแนวทางอื่น โดยยึดเป้าหมายเรื่องการรักษาคุณค่าของผ้าไหมไว้ จึงอยากทำเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้คนมาเรียนรู้กระบวนการว่ากว่าจะได้ผ้าไหมสวยๆ สักผืนต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง"

ขณะที่ อ้อม-อัญชนา ดีไสว จากโครงการพาน้องศึกษาและเรียนรู้ประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม บอกว่าก่อนเข้าอบรมรู้เพียงว่าเป็น SE คือธุรกิจที่ทำเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง จนเกิดคำถามในใจว่าทำไมต้องทำ ทำได้จริงไหม เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ที่อ้อมเคยรู้จักล้วนทำเพื่อตัวเอง สร้างรายได้เข้าตัวเอง แต่หลังเข้าอบรมความคิดของอ้อมก็เปลี่ยนไป

"การทำธุรกิจเพื่อสังคมแทบไม่ต่างจากโครงการเพื่อชุมชนที่เราเคยทำ แต่ข้อดีคือนอกจากชุมชนได้ประโยชน์แล้ว เราเองก็สามารถอยู่ได้ด้วย"

อ้อมเล่าต่อว่า สิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการอบรมครั้งนี้คือแง่คิดในการเริ่มต้นกิจการว่าต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน แต่เวลาทำจริงต้องพร้อมปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ที่จะเข้ามา และได้เรียนรู้ว่าการทำธุรกิจไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก แค่ต้องกลับไปหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น เช่น ขนาดของตลาด ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยธุรกิจที่อ้อมอยากทำคือการท่องเที่ยวชุมชนที่ให้คนภายนอกเข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตและภูมิปัญญา เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวบ้านอยู่ได้ ไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปทำงานที่อื่น ซึ่งหลังจากนี้เมื่อกลับไปที่ชุมชน นอกจากหาความรู้เรื่อง SE เพิ่มแล้ว จะเริ่มชักชวนผู้ใหญ่ในชุมชนมาล้อมวงพูดคุยถึงแนวทางที่ชุมชนอยากทำและเป็นไปได้ด้วย

คุณกิฟท์กล่าวทิ้งท้ายถึงสิ่งสำคัญสำหรับผู้สนใจเข้ามาทำธุรกิจ SE ว่าต้อง "ชัดเจน" ในคุณค่าหลัก 2 ด้าน คือ 1.จะแก้ปัญหาหรือพัฒนาชุมชนสิ่งแวดล้อมของตัวเองอย่างไร 2.จะพัฒนาองค์กรตัวเองให้โตด้วยธุรกิจได้อย่างไร เพราะเมื่อธุรกิจมีเป้าหมายทางสังคมและอยู่ได้โตได้ แปลว่าผลทางสังคมที่อยากสร้างก็ย่อมแผ่ขยายออกไปนั่นเอง

คนรุ่นใหม่เป็นคนที่มีศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ กล้าได้กล้าเสีย พร้อมจะลุยไปข้างหน้า หากได้รับการชี้แนะเรื่องการทำธุรกิจ SE เบื้องต้นให้รู้จักนำทุนทางสังคมในชุมชนมาสร้างธุรกิจที่ทำให้ตัวเองอยู่ได้และเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ย่อมเป็นแรงกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่อีกหลายคนอยากลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆ แก่สังคมมากขึ้นแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version