สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 3,320 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 58 % ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายฝูงบินลำที่ 10 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้รองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผู้นำสายการบินเช่าเหมาลำในประเทศไทย โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มโตเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 74 % และคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,500 ล้านบาท
ส่วนแผนการเติบโตหลังจากนี้สายการบินนิวเจนได้วางแผนในการเปิดเป็นสายการบินพาณิชย์ให้บริการแบบพรีเมี่ยม ซึ่งตลอดระยะเวลาการบินจะมีบริการแบบเต็มรูปแบบ มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า อีกทั้งเส้นทางการบินจะเน้นการเปิดเส้นทางใหม่ในเมืองรอง ที่มีสายการบินเข้าถึงยังไม่มากเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้โดยสารจากเดิมที่ต้องเดินทางไปเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองหลัก แต่สายการบินนิวเจนสามารถให้บริการบินตรง ทำให้สะดวก ประหยัดทั้งเงินและเวลา ด้วยการให้บริการที่ได้มาตรฐานการรับรอง AOC Re-certification ที่ออกให้โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
"สำหรับเส้นทางการบินในปัจจุบันทั้งหมด 37 เส้นทางนั้น ประกอบด้วยเส้นทางการบินจาก 3 สนามบินหลักของประเทศไทย คือ ดอนเมือง กระบี่ และภูเก็ต เชื่อมสู่ 26 เมืองท่องเที่ยวในประเทศจีน ซึ่งการเข้าร่วมเป็นฝูงบินลำที่ 11 และ 12 ของเครื่องบินใหม่นี้ จะทำให้สายการบินนิวเจน ขยายเส้นทางการบินเพิ่มอีก 9 เส้นทาง สู่พม่า อินเดีย ไต้หวัน และเกาหลีใต้ จึงคาดว่าในปีนี้จะสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน และคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,500 ล้านบาท โดยครึ่งปีที่ผ่านมาสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้แล้ว 7 แสนคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ" นายเจริญพงษ์ กล่าว