น.ส.อมราวดี วงศ์เทพ ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยถึงการอบรมหลักสูตรธุรกิจผลิตและจำหน่ายซาลาเปาและหลักสูตรโรตี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีที่มาจากศูนย์บ่มเพาะธุรกิจมีนโยบายส่งเสริมผลักดัน และสนับสนุนให้เกิดการนำงานวิจัยที่คณาจารย์ของ มรภ.สงขลา จัดทำไว้ออกสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นช่องทางให้เกิดการประกอบธุรกิจใหม่ โดยใช้ความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาเป็นฐาน การจัดอบรมทั้ง 2 หลักสูตรเป็นการตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน ที่ต้องการมีอาชีพหรือรายได้เสริมจากการจำหน่ายซาลาเปาไส้ไหลและไส้อื่นๆ และผลิตภัณฑ์โรตีกรอบ โรตีสูตรแป้งนุ่ม โรตีมะตะบะห์ โรตีสลัด โดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้เข้าอบรมหลักสูตรละ 40 คน ได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ สำหรับนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจตามวัตถุประสงค์ของศูนย์บ่มเพาะฯ
น.ส.อมราวดี กล่าวว่า การจัดอบรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเพียง 2 วันที่ประชาสัมพันธ์ข่าวออกไปมีผู้ให้ความสนใจ สมัครเข้าอบรมเป็นจำนวนมาก ยอดผู้สมัครเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ รวมแล้วหลักสูตรละกว่า 60 คน ซึ่งศูนย์บ่มเพาะธุรกิจรับไว้ทั้งหมด เนื่องจากต้องการให้คนในชุมชนมีอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก อุปปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่หาได้จากครัว นอกจากนั้น ยังมองไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ และสามารถเติบโตต่อไปได้ในอนาคต ซึ่งนับเป็นโชคดีที่ มรภ.สงขลา มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจากคณะเทคโนโลยีการเกษตร กับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (คหกรรมศาสตร์) จึงสามารถใช้องค์ความรู้และงานวิจัยของคณาจารย์ทั้ง 2 คณะ ในการร่วมสร้างผู้ประกอบการได้อย่างดียิ่ง
"ทั้ง 2 หลักสูตรมาจากการสำรวจความคิดเห็นของคนในชุมชน ถึงสิ่งที่อยากให้จัดอบรม โดยผู้เข้าอบรมมีโอกาสได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนจนสามารถทำเองได้ และนำความรู้นั้นไปต่อยอดจนถึงขั้นทำเป็นธุรกิจ อย่างหลักสูตรซาลาเปาทางเราได้เชิญเจ้าของร้านซาลาเปา เกียดฟั่ง ร้านดังประจำ จ.สงขลา มาถ่ายทอดเทคนิคความอร่อย ส่วนหลักสูตรโรตีมีเจ้าของร้านโรตีบังชรีฟมาสาธิตขั้นตอนการทำอย่างละเอียด แต่ที่ศูนย์บ่มเพาะฯ ต้องการจะต่อยอดคือตัวแป้ง โดยอาจทำเป็นแป้งไขมันต่ำ และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการเข้าไป เพื่อเป็นทางเลือกคนรักสุขภาพที่ชอบรับประทานโรตีรสชาติไม่หวานจนเกินไปนัก" ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลา กล่าว