ปัจจุบันบทบาทของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างการเติบโตในภาคการท่องเที่ยวและบริการอย่างยั่งยืน รวมถึงผนึกหลอมรวมคนในชาติด้วยการกีฬาเพื่อคนทั้งมวล (Sport for All) สร้างให้เกิดความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันในชาติ
"ได้เน้นย้ำขอให้ทุกคนมีความศรัทธา เชื่อในสิ่งที่ทำ ปัญหาเป็นธรรมชาติของชีวิต ต้องสู้ต่อไป แต่ให้สู้แบบมียุทธศาสตร์ มองเป้าหมายเดียวกัน คือการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องหลอมรวมคนในชาติเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยกีฬาเพื่อคนทั้งมวล ( Sport for All) และทำให้การท่องเที่ยวเกิดการกระจายรายได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำได้จริง" นางกอบกาญจน์ กล่าว
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับในปี 2560 นี้ หัวใจหลัก คือการขับเคลื่อนแผนงานให้เกิดขึ้นและเป็นไปได้จริงในภาคปฏิบัติ โดยในปีที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ ฉบับที่ 4 ขึ้น (พ.ศ. 2560-2564) มุ่งพัฒนาและบูรณาการด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งเสริมความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย "การพัฒนาและบูรณาการตามมิติราชการ (Function Base) มิติยุทธศาสตร์ (Agenda Base) และมิติพื้นที่ (Area Base) เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการพัฒนาและบูรณาการด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ในการก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0"
โดยได้มีการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ดังนี้
1. สร้างประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลก ด้วย "แผนการพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2564) "เน้นการเติบโตอย่างมีดุลยภาพบนพื้นฐานความเป็นไทยเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการกระจายรายได้สู่ประชาชน
2. ทำให้กีฬาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประชาชน ด้วย "แผนการพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560-2564) " โดยกีฬาจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างคุณค่าทางสังคมและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
3. มุ่งบูรณาการงานท่องเที่ยวและกีฬาสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วย "ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560-2564)" โดยเสริมสร้างความเจริญเติบโตแบบคู่ขนานเชิงดุลยภาพ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
4. เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนงานเชิงบูรณาการระดับชาติ ด้วย "ยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560-2564)" เน้นให้กระทรวงทำงานเชิงเสริมสร้างและส่งต่อแผนงานเชิงพัฒนาแบบบูรณาการ
? สำหรับในปี 2561 รัฐบาลกำหนดให้เป็นปีท่องเที่ยวแห่งชาติภายใต้แคมเปญ "ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน" ซึ่งจะเน้นส่งเสริมอัตลักษณ์ และวิถีของท้องถิ่น รวมถึงเน้นการกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองรองและชุมชน โดยอาศัยการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เดินหน้าในการสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) การท่องเที่ยวในอาเซียน 6 ศูนย์กลาง ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical &Wellness) การจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance) การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) การท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect) และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) พร้อมทั้ง ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีถิ่น วิถีไทย Local Experience ประกอบด้วย 70 เส้นทางตามรอยพระบาท (Royal Project) การท่องเที่ยวทางราง (Rail Tourism) การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) การท่องเที่ยวภาคค่ำ (Night Tourism) และการจัดประชุมสัมมนา (Mice) รวมถึงเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 8 เขต เพื่อให้มีกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นการกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองรองและชุมชน และจะมีการประกาศเพิ่มอีก 1 เขต คือ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลใต้ (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง)
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ในด้านกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งดำเนินการจัดทำ พ.ร.บ.นโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.... และ พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.... ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ กระทรวงฯ เล็งเห็นว่าการกีฬาเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิตประชาชนในทุกภาคส่วน และเป็นกลไกสำคัญในการสร้างคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการจัดทำแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 2560-2564 ขึ้น เพื่อเป็นกรอบทิศทางการพัฒนาการกีฬาของประเทศ
นางกอบกาญจน์กล่าวด้วยว่า จากนี้กฎหมายต่างๆจะช่วยเป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปการกีฬาของประเทศให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอันจะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม พัฒนาสุขภาพ คุณภาพชีวิต สร้างความสามัคคีและความภาคภูมิใจของคนในชาติ และตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็น Sport Dream Destination อันจะนำไปสู่กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว Sports for Excellence ซึ่งในปี 2560-2561 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ ได้แก่ Moto GP, Air Race 1, Thomas Uber cup เป็นต้น