นางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ ยังคงร้อนแรง โดยยังมีปัจจัยบวกที่พาให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ โดยในสัปดาห์นี้จะมีประกาศตัวเลข PMI ของหลาย ๆ ประเทศ ด้านญี่ปุ่น ได้มีการพูดถึงความเชื่อมั่นกลุ่มการผลิตขนาดใหญ่ในช่วงไตรมาส 3 พุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวก และด้านเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ จะประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน กันยายน ด้วย รวมถึงสหรัฐฯ ก็จะมีการประกาศตัวเลข PMI ด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการด้านภาคอุปทาน (ISN) ซึ่งตอนนี้ตัวเลขต่าง ๆ อยู่ในแนวโน้มที่ดี ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงมา มีผลมาจากการขายทำกำไรของนักลงทุนในจีนก่อนที่ตลาดหุ้นปิดทำการ ในช่วงวันหยุดวันชาติจีนระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับขึ้นในช่วงนี้ มาจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องระมัดระวังในส่วนของกระแสเงินลงทุนที่จะไหลออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่ ไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วที่เศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งนี้ อังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 4 ส่วนทางประเทศไทยเอง ยังคงกดอัตราดอกเบี้ยในต่ำอยู่ เพราะภาพรวมอยากเห็นเศรษฐกิจขยายตัวตามเป้าหมาย
ด้านมุมมองตลาดหุ้นไทย คาดว่า ยังคงเป็นขาขึ้น และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,700 จุด ได้อยู่ซึ่งมองในแง่ของสินค้าโภคภัณฑ์ น่าจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้จากภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ส่วนทางด้านในประเทศ อาจต้องรอประมาณเดือน พฤศจิกายน น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ในส่วนของภาคธนาคารน่าสนใจ เนื่องจาก ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยยังคงต่ำอยู่ ซึ่งส่งผลดีสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank) ที่ปล่อยกู้
นางวชิราลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านกลยุทธ์การลงทุน สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อMTLS บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ราคาเป้าหมาย 41 บาท โดยบริษัทฯ คาดว่า MTLS จะแสดงการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี โดยเราคาดกำไรของ MTLS ในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโต 46.4% YoY อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากสินเชื่อน่าจะเร่งตัวต่อเนื่องและโตถึง 70% YoY ณ สิ้นปี 60 หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นและการขยายสาขา ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาไว้ที่ 2,200 สาขา แต่ล่าสุดบริษัทสามารถบรรลุเป้าดังกล่าวแล้ว และนับจากนี้ บริษัทคาดจะขยายเครือข่ายให้ถึง 4,000 สาขาภายในปี 63
"เรายังชื่นชอบ MTLS จากการที่บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) เพียง 1.2% และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) สูงถึง 267.1% (ณ สิ้นไตรมาส 2/60) การตั้งสำรองในระดับสูงนี้จะทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งผู้ซึ่งอาจจะประสบปัญหามากกว่าในการพยายามเพิ่มสำรองเพื่อรองรับมาตรฐานทางบัญชีใหม่ IFRS 9ซึ่งจะบังคับใช้ในปี 62 และเราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 64.0% ในปี 60 และ 44.4% ในปี 61" นางวชิราลักษณ์ กล่าว
ด้านรูปแบบราคา (Price Pattern) ของ MTLS มีความแข็งแกร่งอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน สัปดาห์ และเดือน เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ MTLS มีเป้าหมายของการทำ New High อยู่ที่ 36.50 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ MTLS มีความแข็งแกร่งที่มากพอ โดยสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 36.50 บาทไปได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 50 บาท ทั้งนี้ MTLS มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 34 บาท แนวต้านที่ 35.50, 35.75, และ 36.25 บาท และแนวรับที่ 35.00, 34.75, และ 34.25บาท