ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของธนาคารกรุงไทยที่ 'AA(tha)’

พฤหัส ๐๕ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๐๕
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 (Basel III-compliant Tier 2 subordinated notes) สกุลเงินบาทของธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ KTB (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว 'AA+(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ 'AA(tha)' โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวจะมีอายุ 10 ปี นับจากวันออกตราสาร และให้สิทธิธนาคารสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้หลังจาก 5 ปีนับจากวันออกตราสาร วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้คือเพื่อบริหารสภาพคล่องและใช้ในการดำเนินงานทั่วไปของผู้ออกตราสารของธนาคาร

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ดังกล่าวของ KTB อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating) ที่ 'AA+(tha)' หนึ่งอันดับ เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะด้อยสิทธิ นอกจากนี้หนึ่งในข้อกำหนดสิทธิที่สำคัญของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวคือเรื่องปัจจัยที่แสดงว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (non-viability trigger) โดยมีการกำหนดไว้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อธนาคารกลางหรือทางการตัดสินใจเข้าให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และผู้ถือหุ้นกู้จะต้องรองรับผลขาดทุนในลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญบางส่วนได้ (partial write-down) โดยไม่ได้เป็นการบังคับให้ตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down)

นอกจากนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 นี้ จะมีลำดับในการได้รับชำระหนี้ก่อนตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) ที่มีคุณสมบัติสามารถรองรับผลขาดทุนได้ (loss absorption features) ส่วนในกรณีที่มีเหตุการณ์ให้เกิดการตัดหนี้สูญ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 นี้จะถูกตัดเป็นหนี้สูญในสัดส่วนที่เท่ากัน (pari passu) กับหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดอื่นที่ออกโดยธนาคารที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 และมีคุณสมบัติสามารถรองรับผลขาดทุนได้โดยการตัดเป็นหนี้สูญ

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ KTB ที่ 'AA+(tha)' เป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง ในการพิจารณาอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB มีปัจจัยพิจารณามาจากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor หรือ SRF) ที่ 'BBB' ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อรัฐบาลไทยและความสำคัญของธนาคารต่อระบบเศรษฐกิจ การใช้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวเป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิงสำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าว เป็นแนวทางที่สอดคล้องกันกับการพิจารณาอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของ KTB ซึ่งฟิทช์ใช้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (SRF-driven Issuer Default Rating) เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงเช่นกัน สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดนี้ ฟิทช์ยังคงเชื่อว่าอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำยังคงเป็นปัจจัยที่เหมาะสมที่สุดในการสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ธนาคารจะมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ (non-viability)

KTB มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 55% KTB ยังคงเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจเพียงแห่งเดียวและยังคงมีการดำเนินงานที่ใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง รวมทั้งยังคงทำหน้าที่ให้บริการจัดการเงินสด (cash management) แก่รัฐบาลไทย

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อาจส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร

ในขณะเดียวกันอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของธนาคาร ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของรัฐบาลในการให้สนับสนุน (capacity) หรือมุมของฟิทช์ต่อแนวโน้ม (propensity) ที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ KTB เป็นพิเศษนอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support) ได้อย่างทันท่วงทีหากมีความจำเป็น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ