นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จกับการทรานฟอร์มโมเดลธุรกิจสำเร็จและยั่งยืน ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับเชิญจากบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพบปะนักลงทุนพร้อมให้ข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุนสถาบันต่างชาติหลายประเทศ ได้แก่ งาน "Frontier & Emerging Markets Conference" ระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา, งาน "Daiwa Investment Conference Hong Kong 2017" ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน ที่ฮ่องกง และงาน "Asean Stars of the Next Decade 2017" ระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน ที่สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับที่เดินสายโรดโชว์พบปะกองทุนชั้นนำในประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศถือหุ้นเกือบ 20% และคาดว่าหลังจากเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศแล้วจะได้เห็นผลตอบรับและสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบันเพิ่มจำนวนและสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้นขึ้นมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณอันดีในการการันตีถึงคุณภาพของบริษัทฯ เนื่องจากปกตินักลงทุนกลุ่มนี้จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างดีในทุกแง่มุมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับข้อมูลธุรกิจที่เตรียมนำเสนอให้แก่นักลงทุน คือ แนวโน้มการเติบโตโดดเด่นจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสุขภาพและความงามที่ได้ "ไลฟ์สตาร์" ทำรายได้และกำไรมากที่สุดให้กับบริษัทฯ โดยต่อยอดธุรกิจด้วยแบรนด์ "ช็อป 1781" ซึ่งมีฐานลูกค้าเกินครึ่งล้านราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากฐานผู้ชมช่อง 8 ขยายตัว และได้รับการตอบรับอย่างคับคั่งจากพันธมิตรธุรกิจใหม่ ที่สนใจนำสินค้าสุขภาพและความงามทำตลาดผ่านช่องทางเทเลชอปปิ้ง รวมถึงมีผู้ให้ความสนใจและรอการตอบรับร่วมทำธุรกิจอยู่อีกหลายราย
ขณะที่ธุรกิจสื่อได้ "ช่อง 8" เป็นเรือธง เพราะมีแผนปรับผังช่อง 8 ครั้งใหญ่ส่งท้ายปีในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเติมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากเรตติ้งไพร์มไทม์เฉลี่ยร่วม 1 ล้านรายต่อนาที พุ่งทะยานสูงถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 7 แสนรายต่อนาที ปรากฏว่าลูกค้าพันธมิตรหลายรายตอบรับทำสัญญาการซื้อโฆษณาระยะยาวเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปีนี้ช่อง 8 จะสามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ 500,000 รายต่อนาที ขณะที่ธุรกิจสุขภาพและความงามคาดว่าจะมียอดขายเติบโตแรงอย่างก้าวกระโดดทำรายได้ 1,200 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตถึง 600% จากปีก่อน ส่งผลให้รายได้ปี 2560 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้ วันที่ 31 ตุลาคม 2560 กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ รุ่นที่ 3 (RS-W3) จำนวน 193,332,870 หน่วย ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 5 หุ้นต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 12.50 บาทต่อหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า มีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี และวันสุดท้าย 23 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเงินที่ได้จากการแปลงวอร์แรนต์มากกว่า 2.4 พันล้านบาท รวมถึงผลประกอบการอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ จะทำให้สถานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก สำหรับเงินที่ได้จะนำไปลดเงินกู้ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนแรกจะใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของช่อง 8 และการลงทุนผลิตรายการต่างๆ ตามแผนการเติมคอนเทนต์ต่อเนื่อง ส่วนที่สองจะใช้รองรับแผนขยายตลาดเชิงรุกสอดรับกับเทรนด์สุขภาพและความงามที่น่าจะมาแรงต่อไป โดยใช้พัฒนาระบบคอลเซ็นเตอร์และระบบฐานข้อมูลลูกค้า (Data Base) ทำให้เกิดความแม่นยำในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น ตลอดจนจัดการระบบคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด