คุณกมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และ คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทยมาตลอดรัชสมัย ทรงห่วงใยถึงทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อความสุขของประชาชนอย่างแท้จริง แม้ว่าพระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่พระองค์ก็ยังคงสถิตย์อยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งชาติอยู่ตราบนิรันดร สิ่งหนึ่งที่พระองค์ท่านได้พระราชทานไว้ให้คนไทยทุกคนคือเพลงพระราชนิพนธ์อันแสนไพเราะ ไทยเบฟฯจึงได้สนับสนุนให้จัดคอนเสิร์ตเพลงพระราชนิพนธ์บรรเลงกีตาร์คลาสสิกในชื่อว่า "Still On My Mind" The Acoustic night ในรูปแบบ Acoustic Version โดย "เบิร์ด เอกชัย" แชมป์กีตาร์คลาสสิกโลก พร้อมด้วยศิลปินแขกรับเชิญชื่อดังที่พร้อมใจมาร่วมขึ้นเวทีเปล่งเสียงแสดงความจงรักภักดี เพื่อพ่อหลวงของประชาชนชาวไทยในครั้งนี้ครับ นอกจากนี้ จะมีการจัดทำเพลงพระราชนิพนธ์ Acoustic Version จำนวน 48 เพลง บันทึกลง CD เพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นการเทิดพระเกียรติแก่พระองค์ท่านอีกด้วย"
ทางด้าน เบิร์ด-เอกชัย เจียรกุล ศิลปินหลักของการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้เผยว่า "คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากการที่ส่วนตัวผมชื่นชอบบทเพลงพระราชนิพนธ์เป็นอย่างมาก บทเพลงพระราชนิพนธ์เปรียบเสมือนแรงบันดาล ใจทำให้ผมเริ่มเล่นกีตาร์คลาสสิก จนส่งผลให้ผมสามารถได้แชมป์กีตาร์คลาสสิกระดับโลกได้ จึงมีความตั้งใจเสมอมาว่า สักวันหนึ่งอยากมีโอกาสถ่ายทอดบทเพลงพะราชนิพนธ์ในแบบของตัวเองหรือในรูปแบบที่ไม่เคยนำเสนอมาก่อน จึงเป็นที่มาของการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ครับ ซึ่งเป็นโปรเจคต์ต่อเนื่องจากการอัดแผ่นเพลงพระราชนิพนธ์ครบทั้ง 48 บทเพลง ในรูปแบบการเดี่ยวกีตาร์คลาสสิกของผมที่โบสถ์เก่าที่ Toronto,Canada"
สำหรับความพิเศษของคอนเสิร์ต "Still On My Mind" The Acoustic night (Tribute to the great king) เป็นการนำบทเพลงพระราชนิพนธ์กว่า 17 เพลงมาเรียบเรียงใหม่ จากต้องการนำเสนอบทเพลงพระราชนิพนธ์ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยผ่านการบรรเลงจากเสียงกีตาร์คลาสสิกเป็นหลัก ในลักษณะ Acoustic Version ไม่มีเครื่องดนตรีไฟฟ้าประกอบ ซึ่งหลักๆจะใช้เสียงกีตาร์คลาสสิกถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยจะรวบรวมบทเพลงที่เป็นที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้ว อาทิเช่น เพลง สายฝน ชะตาชีวิต ใกล้รุ่ง เป็นต้น มาบรรเลงในงาน ด้านบรรยากาศการทำงาน หลักๆความยากอยู่ที่การคิดหรือไอเดียที่จะจัดวางโชว์ในแต่ละโชว์อย่างไรให้มีความน่าสนใจ โดยที่ใช้กีตาร์เป็นตัวเชื่อม ซึ่งในแต่ละโชว์ก็จะมีความแตกต่างกันไป เช่น โชว์แรกจะเน้น การผสมผสาน โชว์การเดี่ยวกีตาร์ประชันร่วมกับวง Orchestra ซึ่งจะเห็นถึงความไพเราะ ล้อเลียนกันระหว่างเสียงกีตาร์กับวงOrchestra หรือ บางโชว์จะเป็นการ Featuring กันระหว่าง นักร้องคุณภาพระดับประเทศกับเสียงกีตาร์คลาสสิกอันไพเราะ หรือบางโชว์จะเป็นการเดี่ยวกีตาร์กับวง คอรัสประสานเสียง ซึ่งเป็นการเล่นร่วมกันที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก
โดยบทเพลงพระราชนิพนธ์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ทั้งหมด ได้ผ่านเรียบเรียงเสียงประสานโดยนักประพันธ์ระดับโลกจากต่างประเทศหลายท่าน รวมถึงนักประพันธ์ระดับโลกอันดับต้นๆของประเทศไทย อย่าง คุณณรงค์ ปรางเจริญ ก็ได้มาร่วมเรียบเรียงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในงานอีกด้วย เรียกได้ว่างานนี้ ผู้ฟังได้สัมผัสถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้ว ในรูปแบบที่แปลกออกไป นอกจากนี้ยังได้เหล่าศิลปินดังมาร่วมแสดงพลังผ่านโชว์ที่หลากหลาย
อาทิ กีต้าร์คลาสสิกประชันเดี่ยวร่วมกับ วงOrchestra ซึ่งเพลงโชว์นี้ได้นักประพันธ์เพลงระดับโลกชาวอังกฤษ Stephen Goss มาเรียบเรียงโชว์นี้ให้โดยเฉพาะ, การบรรเลงกีตาร์บทเพลงพระราชนิพนธ์ "ความฝันอันสูงสด" ร่วมประชันกับการขับร้องเสภาในแบบไทยเดิม โดยได้นักดนตรีไทยประยุกต์รุ่นใหม่ของไทยที่มีผลงานระดับโลก เก่ง ธชย มาร่วมในโชว์นี้, กีต้าร์คลาสสิกประชันกับสุดยอดขลุ่ยจากศิลปินแห่งชาติ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี,กีต้าร์คลาสสิกกับเสียงร้องอันทรงพลังของ ดา เอ็นโดรฟิน แบทเทิล เดี่ยวกีตาร์บทเพลงพะราชนิพนธ์กับสุดยอดนักเปียโน หนึ่ง จักรวาร, ซาบซึ้งไปกับบทเพลงยิ้มสู้ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ให้กำลังใจ โชว์นี้ได้ น้องแป้ง นักเปียโน และ น้องแซ็ก นักแซ็กโซโฟน 2 นักเรียน จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ยังมีโชว์พิเศษจาก GFA Winner Guitar Trio เป็นการรวมตัวกันของแชมป์กีตาร์คลาสสิคระดับโลกรายการ GFA1)Gabriel Bianco 2) Rovshan Mamedkuliev ที่บินตรงมาจากประเทศฝรั่งเศสและรัสเซีย เพื่อการแสดงชุดนี้โดยเฉพาะ ร่วมด้วยวงคอรัส สวนพลู ,Youth Guitar Orchestra ยิ่งใหญ่กว่า 50 ชีวิต
เรียกว่ายิ่งใหญ่ ประทับใจ ชวนตราตรึง สมกับความตั้งใจที่จะทำให้เป็นค่ำคืนที่บทเพลงพระราชนิพนธ์จะอยู่ในใจเราตลอดไป