CHOW รับเงินสด 622 ลบ.เข้ากระเป๋าเรียบร้อย ปิดดีลขาย Solar Farm ล็อตแรกให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานญี่ปุ่น

อังคาร ๑๗ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๑๘
CHOW ปิดดีลขาย 2 โครงการ Solar Farm Ibaraki กำลังการผลิต 1.17 MW และ Oita กำลังการผลิต 3.26 MW รวม 4.43 เมกะวัตต์ให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานญี่ปุ่น รับทรัพย์ 622 ลบ.เข้ากระเป๋าเรียบร้อย เผยหลังจากนี้พร้อมเดินหน้าเร่งเครื่องขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นเต็มตัว

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (CE) บริษัทย่อย กล่าวถึงความคืบหน้าของการขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ ได้รับเงินค่าขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากกองทุนฯ จำนวน 2,040 ล้านเยน หรือประมาณ 622 ล้านบาท ครบทั้งจำนวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยของบริษัทฯ ขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 4.43 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการIbaraki กำลังการผลิต 1.17 เมกะวัตต์ (DC) และโครงการ Oita กำลังการผลิต 3.26 เมกะวัตต์ ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น มูลค่าประมาณ 2,040 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 622.86 ล้านบาท

สำหรับโรงไฟฟ้าโครงการ Ibaraki มีกำลังการผลิต 1.17 เมกะวัตต์(DC) สัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff ระยะเวลา 18 ปี กับ Ministry of Economy, Trade and Industry (METI) อัตรารับซื้อไฟฟ้า 36 เยนต่อหน่วย จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558 ส่วนโครงการ Oita มีกำลังการผลิต 3.26 เมกะวัตต์(DC)สัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff ระยะเวลา 18 ปี กับ Ministry of Economy, Trade and Industry(METI) อัตรารับซื้อไฟฟ้า 40 เยนต่อหน่วย จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า การขายโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งในครั้งนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างผลกำไรจากการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้รับความสนใจจากกองทุนประเภทโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น เป็นอย่างมาก สามารถขายได้ในราคาพรีเมี่ยม โดยบริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวไปเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการอื่นที่สร้างกำไรให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าเดิม หรือชำระหนี้ที่เกิดจากการลงทุนก่อนหน้านี้ซึ่งจะทำให้ลดภาระเรื่องดอกเบี้ยจ่ายลง ทั้งยังขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยในปี 2560 บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นให้มีกำลังผลิตรวมไม่น้อยกว่า 100 เมกะวัตต์ เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจพลังงานให้เติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญตามเป้าหมายที่วางไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version