ทำไมต้องเป็นหินภูเขาไฟจากแอฟริกา?
นั่นเป็นเพราะว่าหินจากที่นี่มีแร่ธาตุสูง เพราะอยู่ในแหล่งกำเนิดอัญมณี อย่างแร่ทองคำ และพลอยชนิดต่างๆ ทำให้มีประจุพลังงานที่สามารถช่วยในการปรับสมดุลสภาวะต่างๆ ในร่างกาย และยังช่วยขับสารพิษที่สะสมอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งถือเป็นการดีท็อกซ์ไปในตัวอีกด้วย อีกทั้งหินภูเขาไฟนี้ยังสามารถดูดซับและเก็บความร้อนได้ดี ซึ่งเมื่อผ่านการนำไปอบความร้อนในอุณหภูมิที่พอเหมาะก็จะช่วยบรรเทาความเครียด และความตึงของกล้ามเนื้อ ร่างกายผ่อนคลายลง เหมือนเวลาที่เราแช่น้ำร้อนที่พอแช่ไปสักพักเราจะรู้สึกเบาสบายตัวอย่างบอกไม่ถูกนั่นแหละ
และนี่คือประโยชน์ที่จะได้รับจากการนวดบำบัดด้วยหินร้อนภูเขาไฟ
• ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ
• กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณดี ลดริ้วรอย จุดด่างดำ แผลเป็น
• เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการขับสารพิษตกค้างในร่างกาย หากนวดเป็นประจำจะทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น ร่างกายสะอาดขึ้นจากภายใน
• ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น ลดอาการของโรคภูมิแพ้
• ลดอาการปวดประจำเดือน หรือการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อจากการมีรอบเดือนได้
• สามารถลดไขมันส่วนเกิน ลดการสะสมของเซลลูไลท์ เนื่องจากความร้อนและเทคนิคการนวดที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ขับไขมัน สารตกค้างที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังให้กลับเข้าสู่ระบบการไหลเวียนของโลหิตอย่าง มีประสิทธิภาพ
• ความร้อนที่ได้จากการอุ่นหิน จะซึมลึกเข้าสู่กล้ามเนื้อชั้นใน ทำให้ร่างการรู้สึกอบอุ่นขึ้น เหมาะกับผู้ที่รู้สึกปวดชาลึกๆในกล้ามเนื้อ มือเท้าเย็น เช่นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่โดนความเย็นมากๆจนความเย็นซึมเข้าไปในกระดูก หากใช้ทรีทเม้นท์นี้จะรู้สึกสบายขึ้น เลือดลมหมุนเวียนดี
• รูปลักษณะของหินที่ได้รับการเจียระไนให้เป็นรูปโค้งมนนูน อีกทั้งน้ำหนักของหิน รวมถึงเนื้อหินที่เรียบเนียน ทำให้น้ำหนักในการนวดเป็นไปอย่างหนักแน่น และกดลึกเข้าถึงกล้ามเนื้อชั้นในโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก ทำให้เหมาะกับคนทุกวัย กล้ามเนื้อไม่บาดเจ็บ อีกทั้งไม่รู้สึกระคายผิวในขณะที่นวด
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เอเม่คลินิกwww.facebook.com/aimeclinic