นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่าสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุภาครัฐและเป็นคลังวัคซีนมาตรฐานหนึ่งเดียวของภูมิภาคเอเชีย ทั้งเอเชียแปซิฟิกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำหน้าที่ในการตรวจสอบควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุต่างๆทางห้องปฏิบัติการ ทั้งในขั้นตอนของการขึ้นทะเบียน การควบคุมรุ่นการผลิต ตลอดจนการเฝ้าระวังวัคซีนหลังจำหน่าย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีนให้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากวัคซีนและชีววัตถุเป็นที่นิยมและใช้อย่างแพร่หลาย มีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทยยังได้รับการยอมรับจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีหน่วยงานควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุที่ยอมรับในระดับสากล กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้ประสานความร่วมมือกับสถาบัน National Institute of Infectious Diseases (NIID)หน่วยงานควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุของประเทศญี่ปุ่น โดยมีการร่วมมือทางด้านวิชาการในการพัฒนางานตรวจวิเคราะห์เพื่อควบคุมคุณภาพชีววัตถุ เช่น การถ่ายทอดวิธีวิเคราะห์สำหรับการตรวจสอบค่าความแรงวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น นอกจากนี้สถาบันNIID ของประเทศญี่ปุ่นยังได้ให้การสนับสนุนชีววัตถุมาตรฐาน สำหรับการทดสอบด้วย ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวมีส่วนช่วยในพัฒนางานควบคุมคุณภาพชีววัตถุชนิดต่างๆ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากลด้วย
ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองหน่วยงานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือกับสถาบันNIIDในการพัฒนางานด้านการควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุขึ้น โดยมีสาระสำคัญคือการร่วมกันพัฒนาในด้านต่างๆ ได้แก่ ทักษะความรู้และความเชี่ยวชาญในการควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุ ทั้งทางด้านงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น โดยมุ่งหวังให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพจากผลิตภัณฑ์ชีววัตถุที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อไป
"ข้อดีที่ได้รับจากการทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนางานด้านการควบคุมคุณภาพวัคซีนและชีววัตถุครั้งนี้ จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นของประชาชนว่าได้รับบริการวัคซีนเพื่อการคุ้มครองสุขภาพและการป้องกันโรคตามแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพราะวัคซีนในระบบการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคฯ ทุกล็อตจะได้รับการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพก่อนที่จะนำไปให้บริการประชาชน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวยังส่งผลดีต่อความหวังของประเทศไทยในการผลิตวัคซีนไว้ใช้เองอีกด้วย"อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวในตอนท้าย