เทรนด์ ไมโครผนึกยูโรโพลปกป้องอุตสาหกรรมการเงินจากมัลแวร์เอทีเอ็ม ภายใต้ความร่วมมือแสดงให้เห็นว่ามัลแวร์สร้างภัยคุกคามทั้งทางกายภาพและบนเครือข่ายของระบบเอทีเอ็ม

พุธ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๕๙
บริษัท เทรนด์ ไมโคร อินคอร์ปอเรท ( (TYO: 4704; TSE: 4704) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และศูนย์อาชญากรรมไซเบอร์แห่งยุโรป (European Cybercrime Center - EC3) ของ ยูโรโพล (Europol) เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของมัลแวร์เอทีเอ็ม (ATM) โดยรายงานที่ชื่อว่า "การจ่ายเงินกับมัลแวร์เอทีเอ็ม" (Cashing in on ATM Malware) ได้ให้รายละเอียดการโจมตีของมัลแวร์ทั้งทางกายภาพและบนเครือข่าย รวมถึงไฮไลต์สำคัญๆ ของมัลแวร์ดังกล่าว

ปัจจุบันมัลแวร์เอทีเอ็มได้เปลี่ยนแปลงการโจมตีจากเดิมที่ต้องเชื่อมต่อผ่านตัวเครื่องโดยตรงกลายมาเป็นการโจมตีด้วยการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายโดยใช้เครือข่ายองค์กรของธนาคาร โดยรายงานได้ดำเนินการตรวจสอบการโจมตีล่าสุดที่ใช้เครือข่ายธนาคารต่างๆ ในการโจรกรรมทั้งเงินและข้อมูลบัตรเครดิตจากเครื่องเอทีเอ็ม การโจมตีดังกล่าวไม่เพียงทำให้ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (PII) ตกอยู่ในความเสี่ยงและสร้างความเสียหายในรูปของตัวเงินเป็นจำนวนมาก แต่ยังอาจทำให้ธนาคารต้องเข้าข่ายกรณีละเมิดมาตรฐานของกฎระเบียบด้านพีซีไอ (PCI) ด้วย

"การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบันและการปฏิบัติตามมาตรฐานของกฎระเบียบนั้น จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะองค์กรทั่วไปเท่านั้นแต่ยังหมายรวมถึงอุตสาหกรรมด้านบริการทางการเงินด้วย" นาย แม็กซ์ เฉิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท เทรนด์ ไมโคร กล่าว และว่า "ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วโลกที่กำลังดำเนินอยู่ และยังเป็นการช่วยสนับสนุนทรัพยากรให้กับองค์กรต่างๆ ด้วย รายงานฉบับนี้ยังระบุให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัท เทรนด์ ไมโครในการช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและองค์กรธุรกิจเอกชนในการบรรเทาความเสี่ยงจากการโจมตีในอนาคตและให้การปกป้องผู้ใช้รายบุคคลด้วย"

"รายงานภายใต้ความร่วมมือของบริษัท เทรนด์ ไมโคร กับ อีซี3 ของ ยูโรโพล แสดงให้เห็นว่าการใช้ประโยชน์จากมัลแวร์กำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก โดยขอบเขตและระดับของการโจมตีมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการทำงานร่วมกันของภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปอย่างเข้มแข็ง แต่อาชญากรรมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากผลตอบแทนทางการเงินจำนวนมากที่จูงใจให้กลุ่มอาชญากรรมที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบเข้ามาร่วมในการโจมตี โดยรายงานฉบับนี้ได้ประเมินแนวโน้มการพัฒนาของภัยคุกคามอย่างเห็นได้ชัด ผมหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแบบแผนสำหรับอุตสากรรมในอนาคตและเสริมสร้างให้เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพิ่มมากขึ้น" นายสตีเฟน วิลสัน หัวหน้าศูนย์อีซี3 กล่าว

นอกจากรายงานที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ยังมีเวอร์ชั่นที่ได้รับการเผยแพร่ในวงจำกัดสำหรับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สถาบันทางการเงิน และอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยด้าน ไอทีด้วย โดยรายงานดังกล่าวจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรภาครัฐและเอกชนในการทำให้ระบบเอทีเอ็มและครือข่ายมีความแข็งแกร่งและสามารถป้องกันการโจมตีในอนาคตที่อาจเกิดกับสถาบันทางการเงินได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๗ ทีทีบี ครองธนาคารไทยคะแนนสูงสุดด้าน ESG ต่อเนื่องปีที่ 6 ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางสู่ การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
๑๓:๔๐ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย
๑๓:๒๕ หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุปวดร้าวลงขา
๑๒:๕๖ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มองเศรษฐกิจโลก 2025 ฟื้นตัว แม้มีปัจจัยเสี่ยง ชี้ตราสารหนี้และหุ้นยังคุ้มค่าท่ามกลางความผันผวน
๑๒:๒๗ Thailand Privilege Card จับมือ ASAVA ปรับโฉมยูนิฟอร์มด้านบริการ ภายใต้คอนเซปต์ GRACE สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยสู่สากล
๑๑:๐๔ เครือสหพัฒน์ จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
๑๑:๒๖ กสิกรไทยส่งบริการมัดใจตลาดเวียดนาม กวาด 2 รางวัลใหญ่ ระดับนานาชาติ สุดยอดบัตรเครดิตใหม่และสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อเอสเอ็มอีออนไลน์
๑๑:๕๙ 'พฤกษา' ตอกย้ำผู้นำด้านอสังหาฯ ผนึกความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัย สู่การสร้างชุมชนสุขภาพดี มอบสิทธิพิเศษ และโครงการดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี
๑๑:๒๓ TFG ติดปีก! ปี 67 กำไรพุ่งแตะ 3,143.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 486.93%
๑๑:๑๖ SO ตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผล 85% ของกำไร หรือ 0.18 บาท/หุ้น กวาดกำไรปี 67 กว่า 153 ล้านบาท